วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

ต้นแบบคู่รักนิรันดร์ของฉัน ตอนที่ 1


* เปลือยชีวิตวัยเด็ก *

ฉันเป็นลูกหลอด (ลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้าย) ในจำนวนพี่น้องท้ังหมดแปดคน พ่อกะแม่มีลูกชายเรียงแถวมาเกิดสี่คนรวดจากนั้นจึงต่อด้วยลูกสาวเรียงมาอีกเป็นชุด ซึ่งแน่นอนว่าท้ายขบวนคือฉันเอง! แม่เคยเล่าว่าตอนคลอดฉัน พ่อถึงกับเบือนหน้าหนีอย่างหมดแรง... พอโตขี้มาหน่อย ด้วยท่าทีขี้อ้อน ไม่ดื้อ ไม่ซน ยิ้มตาหยี ขี้อายและเจ้าน้ำตา พาให้ใครๆ ต่างก็โอ๋ เอาอกเอาใจกันทั้งบ้าน สมญานามของฉัน คือลูกแหง่ เชื่อมั้ยว่าตอนไปโรงเรียนปีแรก (ป.1 จ้าสมัยนู้นยังไม่มีชั้นอนุบาล) ฉันยังไม่หย่านมแม่เลย (อย่าเอ็ดไปสิ... อายจัง!) ก็โรงเรียนอยู่ไกล้ๆ บ้าน พักเที่ยงทีไรฉันเป็นต้องวิ่งตื๋อมาขอกินนมแม่ที่บ้านได้ทุกวัน... ตลกดี แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ฉันกลับรู้สึกรักและผูกพันกับตายายคู่หนึ่งอย่างแกะไม่ออก ทั้งๆ ที่เราต่างก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน นอกเหนือไปจากหมอตำแยที่ช่วยทำคลอดให้แม่มาตั้งแต่ท้องแรกยันท้องหลังสุดเท่านั้นจริงๆ

'ตาเอิบ' กะ 'ยายธูป' คู่นี้แหละ คือต้นแบบคู่รักนิรันดร์ของฉัน ทั้งที่ยังไม่ประสีประสา... ติดตามไปเรื่อยๆ แล้วคุณจะได้รู้...



ภาพนี้ ชวนให้คิดถึงอย่างมากมาย 'ตากะยาย' ต้นแบบรักนิรันดร์ชองฉัน

หนูหลี เป็นชื่อที่พ่อกะแม่เรียกขานอย่างรักใคร่ ฉันมีชื่อเล่นอีกเพียบแต่อยากให้เพื่อนๆ เรียกฉันอย่างที่พ่อกะแม่เรียก มันทำให้รู้สึกแช่มชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก... ทำเพื่อฉันแค่นี้ ได้ไหม?

ชื่อจริงของฉัน แปลว่าดอกไม้ที่ดี แต่อย่าสนใจมันนักเลย ก็แค่สมมตินามอีกหน่อยก็ลืม...

ตากะยาย ชอบอุ้มฉันขึ้นดมดอกไม้ที่ต้นและย้ำอยู่ตลอดว่าอย่าให้กลีบมันช้ำนะลูกนะ เขาจะเจ็บ… ซึ่งฉันจำได้ขึ้นใจเสมอมา...



ดอกไม้ที่อยู่กับต้น ดูยังไง เมื่อไหร่ ก็สวยสดงดงาม

ตั้งแต่จำความได้ ฉันมักตื่นขึ้นมาพร้อมแม่ทุกๆ เช้า และรอคอยตากะยายมาหาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าร้อง แดดออก ฯลฯ ตากะยายจะต้องแวะมาอุ้มกอดรัดฟัดเหวี่ยงฉันก่อนไปทำธุระที่อื่นเสมอ แม้บางครั้งต้องไปทำคลอดที่ไกลๆ ก็จะรีบกลับและบึ่งมาหามาเจอฉันก่อนที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านของแกเองซึ่งห่างจากบ้านฉันราวครึ่งกิโลเมตรเห็นจะได้...

อันที่จริง ตากะยายก็มีลูกดกอยู่เหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะแปดคนเท่ากับบ้านฉัน ลูกๆ ของยายโตจนแยกครอบครัวไปหมดแล้ว แถมมีหลานเล็กๆ ยั้วเยี้ยไปหมด หากแต่ตากะยายกลับให้ความรักและเอ็นดูฉันจนออกนอกหน้า ราวกับเป็นลูกในไส้ของตัวเองก็มิปาน... ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร รู้แต่ว่า ฉันมีความสุข ตากะยายมีความสุข และคนอื่นๆ ก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย... หลายคนถึงกับออกปากว่าฉันเป็นลูกแท้ๆ ของยายกลับชาติมาเกิด แต่พุ่งหลาวลงมาไม่ทัน เลยต้องไปเข้าท้องแม่แทน... ตอนนั้นฉันไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยหรอก ใครจะว่าอะไรก็ตามสบายเถิด ขอแค่ได้กอดและซบหน้าบนบ่ากรุ่นๆ ของยายก็สุขโขสโมสรอย่างที่สุดแล้ว... แม่แซวว่า หากยายยังพอมีน้ำนมฉันคงไม่ต้องพึ่งแม่หละ ฉันก็ว่างั้นแหละ... รักจริงๆ เลย ยายจ๋า... แม่ทูนหัวของฉัน.

ยายธูป เป็นหมอตำแยมือโปรของชุมชน ทุกครั้งที่ไปช่วยทำคลอดตามบ้าน ตากะยายจะไม่ยอมกินข้าวบ้านใครเป็นเด็ดขาด ผู้คนรู้กิตติศัพท์ดี จึงมักมีของกินของใช้ใส่พกใส่ห่อให้นำกลับบ้าน และนั่นก็จะมาถึงฉันด้วยเสมอ มีทั้งข้าวปลาอาหาร กล้วย อ้อย ขนม ข้าวต้มมัด มันเผา ข้าวโพด ถั่วต้ม ขนมจีน ฝักบัว... ฯลฯ ตาบิขนมใส่ปากเล็กๆ ของฉันอย่างเอ็นดู แม่บ่นอุบว่าทำให้ฉันนิสัยเสียไม่ยอมกินข้าว... โถๆๆๆ... อิ่มจนพุงจะแยกอยู่แล้ว แม่จ๋า...



ของฝากของตากะยาย... ลาภปากสำหรับฉันประจำ

นี่แค่เกริ่นนำ ให้ได้รู้ว่า ฉันเป็นคนเช่นไร มีที่มาที่ไปจากอะไร อย่างไรบ้าง... เผื่อว่า จะช่วยให้เห็นใจฉันเพิ่มขึ้น สักนิดก็ยังดี…

และถ้าไม่เกิดอะไรผิดปกติขึ้นซะก่อน จะเขียนตอนต่อไปให้อ่านอีก... จะรอได้มั้ย?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!