วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

ส่วนหนึ่งของกันและกันตลอดไป... รึเปล่า?


   ว่ากันว่า คนไทยเรามีอายุไขเฉลี่ยราว 73 ปี นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยตายไปซะก่่อน ก็น่าจะมีลมหายใจอยู่ได้ประมาณสองหมื่นหกพันกว่าวัน ซึ่งท่านใดมีความประสงค์จะบวก-ลบให้มากกว่าหรือน้อยกว่าสักเท่าใดก็ตามแต่อัธยาศรัยเถิด

     ในยามที่ เรายังเป็นเด็กกันอยู่ ส่วนใหญ่รสชาดชีวิตมักมีแต่เรื่องสนุกสนาน กิน นอน เที่ยวเล่นเพลิดเพลิน.... จะยุ่งยากสักหน่อยก็ตรงเรื่องการเรียนการสอบ แต่ก็ยังพอมีเพื่อนๆ ที่คอยช่วยกันลุ้นเป็นพรวนและผ่านเรื่องราวเฮฮาไปได้...


ครั้นพอ ย่างเข้าสู่วัยหนุ่มวัยสาว ไม่กี่คนนักหรอกที่จะสามารถรอดพ้นจากการต้องศรรักของท่านกามเทพไปได้  เจ้าความรักนี่หล่ะ เปรียบเหมือนมนต์วิเศษที่จะบันดาลดลให้คนที่มีใจรักทั้งหลายเคลิ้มฝันละลิ่วเข้าไปในวิมานสีชมพูทั้งในยามหลับและยามตื่น กระทั่งคนที่น้ำหนักเกินพิกัดซะมากมาย ก็ยังเบาวื้วววว แทบปลิวตามลมเล็ดลอดเข้าช่องโหว่ที่พอจะมีตามประตู-หน้าต่าง เพียงเพื่อให้ได้พบสบเนตรผู้เป็นที่รักสักนิดก็ชื่นใจ... เมื่อรักเข้าใจในรักแล้วต่อให้มีอุปสรรคนานัปการก็อย่าหมายจะขวางกั้นคู่รักได้... นอกจากความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะร่วมเรียงเคียงคู่แล้ว จะมีสักกี่รายหนอที่ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะครองรักกันอย่างมั่นคงจวบจนวันตาย เฉกเช่นสองตายายคู่นี้   http://webboard.sanook.com/forum/?topic=3556103


เป็นธรรมดา  ที่ดูละครแล้วก็ต้องย้อนดูตัวเองบ้าง.... เฮ้อ!
เมื่อหลับตาลง สะท้อนภาพเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วเกินครึ่งชีวิต เรื่องราวต่างๆ ยังคงฉายชัดอยู่ในความทรงจำของฉัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีทั้งเรื่องดีๆ ควรค่าแก่การจดจำที่อาจหลงลืมไปบ้าง และมีเรื่องร้ายๆ ที่อยากลืมแต่กลับจำติดตาปวดใจไปตลอด.... (นิสัยไม่ดี ชอบทำร้ายตัวเองซะงั้น)

ที่รัก.... ฉันรู้ดีว่าเธอเหนื่อยไม่น้อยเลยกับการที่มีฉันเข้ามาในชีวิต ทุกอย่างที่เธอได้ทำเพื่อฉัน ใช่ว่าจะไม่ซาบซึ้ง หากแต่มันประทับใจ ตื้นตันใจจนพูดไม่ออก คนบ้านนาประสาซื่ออย่างฉันโชคดีแค่ไหนที่มีเธอเป็นคู่ชีวิต ฉันก็ครุ่นคิดหาวิธีตอบแทนคุณความดีของเธออยู่ตลอด ที่ทำได้ก็คงมีเพียงงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ หยิบจับใช้สอยเงอะงะ นานวันเข้าฉันก็ค่อยๆ แปรสภาพจากคนน่ารักเป็นคนน่ารำคาญไปโดยไม่รู้ตัว บ่อยไปที่เราพูดจากันไม่ค่อยเข้าหู เพราะเธอคิดคนละอย่างกับที่ฉันคิด เธอมักออกอาการขุ่นเคืองเสมอเมื่อได้ยินได้ฟังถ้อยคำความคิดเห็นของฉัน แล้วสรุปว่าต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรก็จะไม่พูดกับฉัน.... มันกรีดหัวใจซะยับเลย แต่ฉันก็ยอมนิ่งงันเพื่อให้เธอสบายใจ.... ฉันแอบฝึกปรือวิธีกลืนก้อนสะอื้นกลับลงไปในท้องจนเก่งเกินใคร... ที่สุดแล้ว ความอดกลั้นต่ออารมณ์ของเธอทำเอาฉันเหมือนคนใบ้เข้าไปทุกที พอๆ กับรอยยิ้มของฉันที่ค่อยๆ จางก็หายไปเช่นกัน

ที่รัก... เธอเคยบอกว่าฉันเป็นคนอ่อนหวาน อยู่ไปนานๆ กลับเห็นเป็นความอ่อนแอ ธรรมชาติของฉันเป็นเช่นนั้นเอง แต่ก็พยายามจะแก้ไขเพื่อให้เธอพอใจ.... ฉันเองก็มีเลือดเนื้อ มีหัวใจเหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องการคำชื่นชมไม่ใช่ความชิงชัง... เธอคงต้องการให้ฉันแกร่งกล้ามากกว่านี้สินะ จึงได้หมั่นเติมความเข้มแข็งทางจิตใจให้อยู่ฉันบ่อยๆ เธอกับเพื่อนๆ คงมีความสุขมากที่เห็นฉันเป็นคนโง่ใช่ไหม?  ทำไมชอบล้อเล่นกับความจงรักภักดีของฉันนัก ช่างเถอะ ไม่เป็นไรดอก... เมื่อเทียบกับที่เธอให้โอกาสฉันได้อยู่เคียงข้างอย่างคนไม่คู่ควร

ที่รัก....ได้โปรดทำความเข้าใจในตัวฉันอย่างที่ฉันเป็น ความบอบบางที่ฉันมีมาแต่กำเนิดหรือการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง มิใช่เสแสร้งแกล้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ และฉันได้พยายามช่วยตัวเองอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อไม่ให้เป็นภาระของใครๆ อย่าเอือมระอาหรืออึดอัดกับฉันนักเลย และอย่าทำหมางเมินหรือมองไม่เห็นกัน พูดจากันเองกับฉันบ้าง ฉันสามารถทำความเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของเธอได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วฉันต้องเป็นฝ่ายไปก็ตามที

ที่รัก... ใช่จะไม่รับรู้ว่าใจของเธอเปลี่ยนไป ฉันทุกข์ระทมแทบขาดใจอยู่เดียวดาย... เพียงเธอกลับมาน้ำตาก็แห้งเหือดไปอย่างไม่รู้ตัว ขอบคุณนะที่ยังสงสารกัน เอาเป็นว่า ถ้าในใจเธอไม่มีที่ว่างพอล่ะก้อ แค่แผ่นหลังของเธอก็อบอุ่นและปลอดภัยสำหรับฉันเสมอ....หากเธอทุเลาความขุ่นเคืองใจลงบ้างแล้ว พอจะบอกได้ไหมว่าฉันทำผิดอะไร-ยังไงบ้าง จึงได้ถูกลงโทษเช่นนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ชาติปางก่อนฉันเคยทอดทิ้งให้เธอต้องอยู่ลำพังในความมืดมิดหรือไร.... ความจริงฉันอาจมีเวลาเหลืออีกไม่กี่มากน้อย การต้องแยกจากเธอไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันเป็นความทรมานอย่างที่สุดของฉัน ได้โปรดสังวรสักนิดก่อนจะคิดผลักใสฉันด้วยการกระทำแบบเดิมๆ

ที่รัก.... ขอความจริงใจ สัตย์ซื่อ ให้ฉันบ้างเถิด เพื่อตอบแทนความภักดีเกินร้อยของฉันที่มีให้เธอเพียงคนเดียวตลอดมาและตลอดไป หรือต้องให้พิสูจน์ด้วยการทรุดลงไปสิ้นลมหายใจตรงหน้าซะก่อน ถึงจะเข้าใจกัน อย่าลืมว่าเธอมีทั้งหน้าที่การงาน สังคม ญาติสนิทมิตรสหาย แต่ฉันมีเพียงเธอ....เท่านั้น

ที่รัก....ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรต่อไป ถึงแม้เธอจะไม่ต้องการฉันแล้วก็ตาม ฉันยังอยู่ตรงนี้ ที่เดิม... เรายังเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันตลอดไป รึเปล่า? ....

2 ความคิดเห็น:

  1. อ่านตอนนี้ความรู้สึกรับรู้ได้ ณ เวลานั้นเป็นเช่นไร แทบจะกลืนก้อนที่ติดอยู่ที่คอไม่ลงเหมือนกัน ทั้งที่เวลามันผ่านมานานแล้ว จนถึงวันนี้ ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นมากถึงมากที่สุด หวังเช่นนั้น.ชีวิตคนเรายิ่งกว่านิยาย.น่าเห็นใจจริงนะผู้หญิงตัวเล็กๆน่าจะได้รับการทะนุถนอมแต่กลับต้องมาบอบช้ำ..ตอนนี้..แกร่งแล้วใช่ป่ะ
    .คนช่างฝัน.

    ตอบลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!