วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

หวานสอดไส้

หลายวันมานี่ บรรยากาศค่อนข้างชุ่มฉ่ำกับสายฝนไปทั่วทุกภูมิภาค ดูภาพข่าวทางทีวีเห็นว่าบางแห่งถึงกับท่วมเจิ่งจนเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ... เศร้าเลย... ยังไงก็ขอให้พระเจ้าอำนวยพรให้รอดปลอดภัยและผ่านพ้นไปได้ด้วยดีทุกครอบครัว ทุกๆ คน เทอญ... สาธุ!

ว่ากันตามจริงแล้ว เวลาที่ฝนฟ้ากระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ผู้คนก็อดที่จะโอดครวญกับปัญหาน้ำท่วมน้ำขังมิได้ ทั้งที่เมื่อไม่นานมานี้ ยังพากันบ่นร้อนชิ_xายกันอยู่ปาวๆ ยิ่งรายที่ต้องพึ่งพาน้ำท่าจากธรรมชาติก็สุดเซ็งเพราะพืชพันธุ์ตายซากจากภาวะแล้งน้ำ ทำเอาบรรดาผักสดในตลาดต่างๆ แย่งกันขึ้นราคาจนแทบจะเลิกกินผักเสียให้รู้แล้วรู้แร่_ไปเลย... โอ้ย น้อ... อะไรจะขะไหนหนาด

ไอ้ฉันมันคนว่างจัดก็คิดไปซะไกล เรื่อยเปื่อยอีกแระ... อ่ะ หาเพลงเพราะๆ มาให้ฟังดีกว่า... เป็นเพลงโฟล์คสากลในเวอร์ชั่นของสาวเอเชีย Wee Gee มีใครเกิดทันยุคเธอบ้างไหม? ซัก 30 ปีก่อนนู่น อิอิ... เพลงนี้ เคยมีคนบอกว่าฟังแผ่วหวานปนเศร้าอย่างบอกไม่ถูก... ลองฟังดูนะ "Donna Donna" จ้ะ



ไง... เพราะไหม? ฟังจบแล้วหลายคนอาจคิดเหมือนฉัน คือชอบจังทั้งที่ฟังไม่รู้เรื่อง... (๕๕๕) ไม่เข้าใจความหมาย ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาสื่อถึงอะไร... เซาะกราวจังเลยนิ

จึงเกิดกิเลสอยากรู้สักนิดว่าเพลงที่ชอบฟังบ่อยๆ จนอยากร้องได้เองเพลงนี้ มันมีความหมายว่าอย่างไรบ้าง... ก็เลยพยายามเสาะหามา ได้ความว่า... เดิมทีเขาประพันธ์เป็นภาษาฮิบบลู ตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 นู่น... ช่วงเวลานั้นมีเหตุการระทึกขวัญที่เหล่าทหารนาซีไล่ฆ่าชาวยิว... บรื๋ยส์! (ความหมายโดยนัย คำว่า Calf ที่แปลว่าลูกวัว ในที่นี้คือชาวยิว) ผู้ประพันธ์บรรยายภาพลูกวัวหลายตัวถูกมัดรวมกันแล้วสังหารหมู่... อร๊ากส์! น่ากลัวอย่างที่สุดเลย


ฉันไม่อยากอธิบายอะไรมากดอก เด๋วผิดเพี้ยนไปจากความหมายของต้นฉบับเสียเปล่าๆ... มีคนเขาแปลไว้แล้วล่ะ อ่านเองทำความเข้าใจเองเถิด...

On a waggon bound for market, there's a calf with a mournful eye.
ลูกวัวที่มีแววตาเศร้าสร้อยตัวหนึ่ง ถูกมัดอยู่บนเกวียนเพื่อจะไปยังตลาด

High above him there's a swallow, winging swiftly through the sky.
สูงขึ้นไปก็จะมีนกนางแอ่นตัวหนึ่งกำลังกระพือปีกอย่างรวดเร็วบินเหิรสู่ท้องฟ้า

How the winds are laughing, they laugh with all their might.
เสียงสายลมโบกสะบัดกระพือโหมอย่างอิสระ คล้ายเสียงหัวเราะเย้ยเยาะ

Laugh and laugh the whole day through, and half the summer's night.
เสียงเยาะเย้ยจากสายลมดังแล้วดังเล่าตลอดทั้งวันและค่อนคืนของฤดูร้อน

Donna, Donna, Donna, Donna; Donna, Donna, Donna, Don.
โอ้... ดอนน่า

Stop complaining said the farmer,
หยุดพร่ำบ่นสักทีจะได้ไหมนะ... ใเป็นเสียงจากชาวนา

Who told you a calf to be?
ใครบอกเธอล่ะ... ว่าเจ้าลูกวัวนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

Why don't you have wings to fly with,
ทำไมเธอจึงไม่มีปีกที่จะโผบินไปล่ะ

like the swallow so proud and free?
ไปอย่างอิสระด้วยความภาคภูมิเหมือนกับเจ้านกนางนวลนั่น

How the winds are laughing,
สายลมส่งเสียงหัวเราะอย่างไรนะหรือ

they laugh with all their might.
มันส่งเสียงหัวเราะตลอดเวลาที่มันอยากจะทำ

Laugh and laugh the whole day through,
หัวเราะแล้วหัวเราะอีกตลอดทั้งวัน

and half the summer's night.
กระทั่งค่อนคืนที่ผ่านไป

Donna, Donna, Donna, Donna; Donna, Donna, Donna, Don.
โธ่... ดอนน่า

Calves are easily bound and slaughtered,
ลูกวัวน่ะ... มันถูกจับมัดและก็ถูกฆ่าทีละมากๆ โดยง่ายดาย

never knowing the reason why.
โดยไม่เคยรู้เลยว่าทำไม

But whoever treasures freedom,
แต่ใครก็ตามที่เห็นคุณค่าของอิสรภาพ

like the swallow has learned to fly.
ก็จะเหมือนกับนกนางแอ่นที่เรียนรู้ที่จะโบยบินออกไป

How the winds are laughing,
สายลมมันเริงร่าอย่างไรกันนะ

they laugh with all their might.
มันหัวเราะเยาะเย้ยแบบที่มันต้องการ

Laugh and laugh the whole day through,
เสียงหัวเราะแล้วหัวเราะอีกจะดังไปตลอดทั้งวัน

and half the summer's night.
และตลอดค่อนคืน

Donna, Donna, Donna, Donna; Donna, Donna, Donna, Don.
โธ่... ดอนน่า

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล :  group.wunjun.com



และดูเหมือนว่าคลิปนี้ ได้อารมณ์เศร้าเข้ากับเนื้อหาของบทเพลงยิ่งนัก

จากนี้เป็นต้นไป

จะยังชื่นชอบเพลงนี้อยู่อีกหรือไม่?

ก็... แล่วแต๊...