วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

ขนมเทียนแม่เอ๊ยส์


ถึงวันตรุษจีนทีไร เป็นต้องได้ร่วมลงไม้ลงมือหนุบๆ หนับๆ กับการทำขนมเทียนแสนอร่อยสูตรต้นตำรับของคุณย่าทุกปี... มีเสียงเรียกร้องจองจำนวนเข้ามาตั้งแต่ช่วงปีใหม่อยู่มิขาด ทั้งๆ ที่ต่างก็รู้ๆ กันอยู่ว่าทำขายไม่ไหวดอก ทำแจกก็ไม่ทั่วถึงอย่างที่เคยๆ เสียแล้ว เพราะคนทำและคนช่วยทำทั้งหลายล้วนแต่ สว. ด้วยกันทั้งสิ้น ทำขนมเทียนแต่ละคราวมันช่างเข็ดเมื่อยหลังเอวไปหลายวันจนแทบจะสาปส่งไม่กงไม่กินมันแระ... ไหนจะต้นทุนวัตถุดิบที่ราคาพุ่งพรวดๆ... ใบตองที่เคยมีคนเอามาให้ถึงบ้านอย่างมากมายโดยไม่ต้องซื้อหา เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นว่าหาซื้อแทบไม่มีขาย... อะไรกันหนอนี่หนอ พี่น้องไทยเจ้าเอ๋ย...

ย้อนไปก่อนหน้าสัก 5-6 ปี ขนมเทียนอันละ 2 บาทเท่านั้น... มีแม่ค้าทำมาวางขายกันเกร่อตามท้องตลาด อร่อยถูกใจมากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไป... แต่บัดเดี๋ยวนี้ (พ.ศ. 2558) ณ ตลาดสดท่าอิฐ มีขนมเทียนขายหรอมแหรม สนนราคาอันละ 7-10 บาท ไม่รู้เหมือนกันว่ารสชาดเป็นจังได๋พ่อง... เง้อ!


ในเมื่อหลายๆ คนเอ่ยปากขอสูตร จะไม่ให้หรือก็กระไรอยู่... ม่ะ ดูดีๆ นะ... ขนมเทียนไส้เค็ม มันก็ไม่ยากไม่ง่ายเท่าไรนัก แต่ถ้าหากจะทำคนเดียวล่ะก็... ขอบอกว่าให้ไปซื้อเขากินเหอะ เชื่อฉันซี


ก่อนอื่นต้องไปหาใบตองสวยๆ มาเตรียมล่วงหน้าสักวันสองวัน... ได้มาแล้วก็ผึ่งแดดให้พอนิ่ม ฉีกส้วงกว้าง 12 ซม. แล้วตัดเจียนปลายทั้งสองด้านให้โค้งมนตามรูป โดยส่วนแข็งที่ติดก้านไม่ต้องโค้งมากนัก แต่ส่วนปลายอ่อนให้โค้งๆ เข้าไว้เพื่อเหลือปลายสอดสลัก... ไม่เข้าใจอ่ะดิ... ดูตามรูปเอาเต๊อะ ง่ายดี... เศษเล็กเศษน้อยที่ไม่ได้ขนาดก็อย่าทิ้งล่ะ เก็บตัดชิ้นเล็กๆ ราว 4x4 ซม. (อันนี้เป็นเคล็ดไม่ลับส่วนตัวเจ๋ยๆ) ไว้เยอะๆ แล้วเด๋วค่อยขยายความทีหลัง...


ตัดเจียนใบตองเสร็จ ก็ต้องเช็ดให้สะอาดด้วยนะ... ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำพอหมาดสองผืน วางบนโต๊ะหนึ่งผืน หยิบใบตองมาวางบนผ้านั่น แล้วใช้ผ้าอีกผืนเช็ดตามแนวเส้นใบ พลิกเช็ดบน-ล่างจนเกลี้ยงดี และก็ต้องหมั่นลุกไปซักผ้าขนหนูบ่อยๆ จะเห็นว่าน้ำซักผ้าดำปี๋เลยช่ะ เพราะทั้งฝุ่นทั้งนวลตองสกปรกเข้าขั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ค้าทั่วไปได้ทำเช่นนี้มั่งหรือเปล่า... มันกินเวลามากเป็นวันๆ เลยนะการเตรียมใบตองเนี่ย ขอบอก... บางคนจึ่งทำไปบ่นกะปอดกะแปดไปว่าซื้อเขากินคุ้มกว่าเป็นไหนๆ... ซะงั้น
  

ไอ้ฉันมันคนไม่โปรดของหวานสักเท่าไหร่ สมัยเด็กๆ ขนมเข่งขนมเทียนนี่ไม่ค่อยถูกกะฉันดอก มีแต่แจกกับแจกเท่านั้น จะหยิบใส่ปากบางบ้างก็ตอนที่เหลือๆ ตากจนแห้งแล้วเอามาชุบไข่ทอดนู่นแหละ... สำหรับฉันแล้วมันต้องไก่-หมูทอดกรอบๆ จิ้มส้มตำรสเด็ดเผ็ดจัด ซี้ดดส์!... คิดถึงแม่อีกแย้ว... ฮือๆ... อ่ะไปเข้าสูตรกันเลยดีกว่าเด๋วหาที่ลงไม่ได้...


ถ้าจะทำขนมเทียนปริมาณเยอะๆ จะต้องทำไส้ขนมให้เสร็จก่อนวันห่อขนมนะจ๊ะ... พอลงมือทำเข้าจริงๆ มันเพลินจนลืมเวลา กว่าจะเสร็จงานในมือก็รู้สึกหิวมื้อเย็นนู่นเลยทีเดียว... วัตถุดิบที่ต้องเตรียมก็ไม่สลับซับซ้อนอะไรเลย มีแค่ถั่วทอง (ถั่วเขียวเลาะเปลือก) 1 ถุง, หอมแดง 300 กรัม, พริกไทยป่น 2 ชต., น้ำมันพืช 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย และเกลือป่น 1 ชต. กะห่อได้ราว 50-60 ชิ้น ขึ้นอยู่กับว่าจะปั้นก้อนเล็กหรือใหญ่ ตามแต่ใจใครซีจ๊ะ...


วิธีทำก็ไม่ยาก... เริ่มจากล้างถั่วทองให้สะอาดสัก 3-4 ครั้งจนน้ำใสดี ก่อนแช่ทิ้งไว้สัก 2-3 ชม. แล้วนำไปต้มในกะทะใบโตๆ ใส่น้ำท่วมถั่วเพียงปริ่มหลังมือ เปิดไฟกลาง ปิดฝากะทะสักพัก พอเริ่มเดือดค่อยๆ ช้อนฟองทิ้งเรื่อยๆ ใช้ตะหลิวค่อยๆ ตะล่อมถั่วรอบๆ ขอบกะทะให้กลบพูนเข้ากลางกะทะ


จนกระทั่งน้ำงวดไปหมด ใส่เกลือ 1 ชต. ผัดไปมาให้ถั่วเนียนจนเห็นนวลถั่วติดก้นกะทะ... หรือหากชื่นชอบที่จะหม่ำใส้ถั่วแบบหยาบๆ มีเม็ดๆ ปนให้เคี้ยวมันเคี้ยวเพลินก็ไม่ต้องผัดให้เนียน นะจ๊ะ นะ


จากนั้น ปิดไฟ ปิดฝากะทะปล่อยให้อบจนแห้งสักพัก... ราวๆ 15 นาที


ช่วงนี้ ก็หันไปซอยหอมแดงบางๆ เตรียมไว้ (แสบตาน่าดู อร๊ากส์!) เสร็จแล้วตักถั่วออกจากกะทะให้หมด ขูดๆ นวลถั่วที่ก้นกะทะเท่าที่สามารถ... แล้วจึงเทน้ำมันพืชลงไปในกะทะ เปิดไฟกลางพอน้ำมันร้อนใส่หอมซอยลงเจียว หมั่นคนไปเรื่อยๆ จนเหลืองหอม...


จากนั้น ใส่ถั่วลงไปผัดเร็วๆ เติมน้ำตาลและพริกไทยลงไปผัดเรื่อยๆ (โอยโอ๊ยโอย มันเมื่อยแขนมากมายจ้า ขอบอก!)... ชิมรสดู ชอบรสไหนยังไงก็ปรุงเอาเท่าที่ใจปรารถนา จนได้รสชาดเหมาะเหมงเป็นที่ถูกปากถูกใจดีแล้ว ผัดต่อไปสักพักกระทั่งกะทะขึ้นนวลถั่วอีกนั่นแหละ (ยังไงๆ ก็ไม่ติดกะทะดอกน่าน้ำมันตั้งถ้วยนิ) จึงเป็นอันว่าใช้ได้ ปิดไฟ ตักใส้ขนมใส่ถาด เกลี่ยกระจายๆ ปล่อยไว้ให้เย็นตัวลง แล้วค่อยปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดเหรียญห้าบาท...




ต่อไปก็ถึงตอนนวดแป้ง ถ้าจะให้ดีต้องใช้แป้งข้าวเหนียวตราช้างสามเศียร (คุณย่าบอกไว้ว่าอย่างนั้น ซึ่งฉันก็ไม่ได้อยากรู้เหตุผลของท่าน) เอาเข้าจริงกลับใช้แป้งข้าวเหนียวดำมาผสมด้วย น่าแปลกใจไม่น้อยที่นิยมอะไรดำๆ มากกว่าขาวๆ... แล้วคนจมูกไวอย่างฉันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นแป้งหมักหน่อยๆ มิน่าล่ะ...


เทแป้งข้าวเหนียวขาว-ดำ อย่างละครึ่งถุงใส่กะละมัง คนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วยลงไป ค่อยๆ หยอดน้ำสะอาดทีละน้อย คนๆ ขยำๆ ไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น อย่าให้แป้งจับกันเป็นเม็ดมันจะแก้ยาก... เติมน้ำเรื่อยๆ จนแป้งมีลักษณะเป็นอย่างที่เห็นในรูป...








นวดแป้งเสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้าขาวบางหมาดๆ คลุมไว้ก่อน มิฉะนั้นจะแห้งและแข็งได้... ถึงกระนั้นก็ตาม เวลาปั้นแป้งห่อใส้ก็ต้องหมั่นพรมน้ำนวดๆ ให้แป้งนุ่มอยู่เสมอหล่ะ... อืมห์ เป็นรัยที่ต้องทำเองกะมือถึงจะเข้าใจสินะ... เอิ๊กส์ๆ!


ถ้าหากรอให้ทำเสร็จจนเก็บล้างเรียบร้อยแล้ว ค่อยเขียนเล่ารายละเอียดการปั้นแป้งใส่ไส้ขนมก็คงลืมๆ ไปเกือบหมด โชคดีว่าสมัยนี้มีกล้องถ่ายภาพง่ายๆ สะดวกที่จะเก็บภาพไปเรื่อยๆ ระหว่างที่ลงมือทำ... แต่การจะให้อธิบายความโดยละเอียดว่าทำอย่างไรบ้างเพื่อให้คนอ่านสามารถนึกภาพได้ชัดเจนตามไปด้วยถึงขนาดทำตามได้นี่มันเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย... เอาเป็นว่า ให้ดูจากคลิปก็แล้วกันนะ... เห็นสั้นๆ อย่างนี้ก็เหอะ ใช้เวลาโหลดแต่ละคลิป หือม์ ยาวเลยนะจะบอกให้...


พอปั้นเสร็จแต่ละลูกก็หย่อนลงในภาชนะที่มีน้ำมันพืช... บอกตามตรงว่าฉันพยายามอย่างมากที่จะจำกัดการใช้น้ำมันให้น้อยลง (จนเจ้าของสูตรไม่ค่อยสบายใจนัก) จากที่เคยเทน้ำมันใส่ครึ่งชามก็เหลือแค่ก้นชาม เพียงแค่ช่วยหล่อลื่นนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องแช่ชุ่มโชกเลยนี่นา ทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แถมยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย... หากกลัวว่าจะแกะกินยากเพราะติดใบตองล่ะก็... เอาน่า เด๋วฉันอาสาแกะป้อนให้เองกะมือก็ได้ โธ่... หรือถ้าคิดว่าไม่มันไม่อร่อยก็ค่อยไปจิ้มน้ำมันเอาทีหลังเหอะ นะ นะ


สุดท้าย คือขั้นตอนการห่อ... ห่ออย่างไรให้สวยเหมือนนมสาว คุณย่าเกริ่นนำก่อนจะหยิบใบตองมาสองใบ ใบใหญ่อยู่ล่างใบเล็กกว่าคว่ำซ้อนข้างบนให้แนวไขว้กันเล็กน้อย
 
 

พึงเลี่ยงการวางแนวของเส้นใบขนานกันเช่นนี้ เพราะหากใบตองปริแตก ขนมก็จะย้วยออกมา


เดิมทีเดียว ใบตองชั้นในนั้น คุณย่าใช้บ้างไม่ใช้บ้าง... และพิถีพิถันขนาดว่าต้องตัดเจียนให้ได้รูปแบบโค้งคล้ายๆ กัน ต่างไปก็เพียงขนาดเล็กกว่าจนไม่สามารถใช้ห่อได้... ครั้นพอฉันได้ลงมือทำตามไปหลายๆ ห่อเข้า ก็จับทิศทางถึงบางอ้อ... จึงเอากรรไกรมาตัดเจียนใบตองให้เป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 4x4 ซม. ตัดมุมพอให้ดูดี... จากนั้นใช้ชิ้นเล็กนี่แหละเป็นส่วนยอดแหลมของนมสาว... ไม่เปลืองใบตองและห่อขนมที่เป็นฝีมือฉันมันจะมีขนาดกะทัดรัดคงรูป ยอดไม่ยุปทรงไม่ยวบ นี่ไงนมสาวฝีมือฉัน.


จุ๊ๆ... เด๋วจะหาว่าคุย
 เอามาให้ดูกันจะๆ เต็มลูกตา
มีคนชมด้วยแหละ 'สวยดี'
ตอนห่อเพลินๆ ก็ปากหนักไม่ได้ถามว่าชมอะไร? นม/ขนมหรือคนห่อ... เอิ๊กส์ๆ 

ก็แค่นี้เอง... คงไม่ยากเกินไปสำหรับใครที่สนใจจะลงมือทำบ้าง นี่ถ้าหากว่าวันหนึ่งข้างหน้าเกิดไม่มีจะกินขึ้นมาจริงๆ เห็นทีต้องงัดวิชาเก่าแก่ทำขนมเทียนหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคงพอถูๆ ไถๆ ไปได้... ว่าแต่ว่าจะมีใครกล้าชิมฝีมือฉันรึเปล่าน้อ? จะอุดหนุนแม่ค้ามือสมัครเล่นเช่นฉันสักหน่อยมั้ย?... บอกหน่อยจิ.


1 ความคิดเห็น:

  1. คงไม่มีโอกาส..ได้แต่มอง จินตนาการเอาละกัน มืออาชีพแล้วยินดีด้วยกับความ. สามารถหลายๆอย่าง

    ตอบลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!