มีบ้างมั้ย ที่เคยเฝ้าปลอบใจคนโน้น - คนนี้ ซะมากมายหลายครา จู่ๆ ก็ถึงโอกาสที่ความทุกข์มาเยี่ยมเยือนโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ครั้นพอมองไปรอบกาย กลับไม่เห็นแม้เงาของใครเลยสักคน......
หากคุณหรือใครที่กำลังคิดหรือรู้สึกแบบนี้ ทำนองนี้อยู่.. ได้โปรด ให้เวลากับฉันสักหน่อยเถิด ฉันเองก็เคยมาแล้วเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้มันต่างไป... เหมือนกับถอดแว่นกันแดดออก และแล้วทุกอย่างก็ดูสว่างนวลตา น่ายล โลกใบโตก็โสภาน่าอยู่กว่าตะก่อนเยอะ ผู้คนรอบกายก็ล้วนมีน้ำใจ จริงใจ ไม่มีการโกหก จับผิดหรือตำหนิดุด่า ดีจะตาย แม้นแต่ผู้คนที่มิได้รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน ก็ยังแจกรอยยิ้มสดใสให้กันได้ทุกเช้า-ค่ำ... ขอเพียงแค่เราหยุด. ไม่ยึดถือว่าต้องยังงั้น ยังงี้ๆ ยังงั้น ทุกอย่างก็ดูเบาขึ้น โล่งขึ้น มีความสุขได้มากขึ้น สายน้ำที่เคยราดรินแหมะๆ แฉะร่องแก้มก็พลอยแห้งเหือดหายไป..... ตอนไหนไม่รู้
เออนะ เมื่อคราวที่เกิดมาใหม่ๆ พวกเราทุกคนต้องการแค่นมกับลม (นมแม่กับลมหายใจ) เท่านั้น ก็รอดมาได้... ยามนี้ต่างก็หย่านมแม่ไปซะนานนมยานกันหมดแล้ว หากแต่การหายใจก็ยังมีอยู่ต่อเนื่องเรื่อยมาอย่างอัตโนมัต โดยไม่เคยสังเกตสักนิดเลยว่ามันสั้น-ยาว-เบา-ลึกแค่ไหน หรือยังไงดีกว่ายังไง... ฉันรู้แค่ว่าเผลอถอนหายใจทุกทีที่รู้สึกทุกข์ทน เฮ้อๆๆๆ.... เฮ้อ! นั่นแหละ พอได้ทำแล้ว มันคล้ายๆ กับว่ารู้สึกดีขึ้นบ้าง ค่อยยังชั่ว(อยู่) ขึ้นหน่อย ก็เลยทำติดต่อกันเรื่อยๆ เปื่อยๆ ตามรมณ์ จนในที่สุด ได้ข้อสรุปว่าแท้จริงแล้วฉันยังไม่ได้เรียนรู้วิธีการหายใจที่ถูกต้องนี่เอง จิตใจที่ขุ่นมัวเศร้าหมองจึงไม่ผ่องแผ้วขึ้นมาได้ ฉะนั้น จึงแสวงหาวิธีปฎิบัติที่หลากหลายเพื่อการหายใจให้ปอดปลอดโปร่ง-โล่งปิ๊ง! กระทั่งถึงตอนนี้ ฉันสามารถหายใจได้ในระดับดีถึงดีมาก อะแน่ะ! ทำเป็นอวด....
อยากให้คุณลองทำดูบ้างเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ กรุณาทำให้ได้ระดับดีที่สุด... นะ นะ
นับต่อจากนี้.... เราไม่ต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กันอีกต่อไป สาธุ....
ผ้าเช็ดหน้า 7ผืนชื้นไปด้วยน้ำตา เง้อ เง้อ ม่ายเอาๆ ขี้เกียจซัก เปลี่ยนเป็นทิชชูหล่ะ ฝึกหายใจให้เป็นแล้วน้ำตาจะไม่มี เกี่ยวกันมั้ยนี่คริคริ เดี๋ยวนี้ไม่ไหลฟูมฟาย ได้แต่ซึมๆ รื้นๆ เพราะเราหยุด ไม่ยึด ดีจริงจ้ะ
ตอบลบยึดไปก็เท่านั้น... ใช่ว่าจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปตามแงปรารถนาได้...
ลบยอมรับมันอย่างที่มันเป็น... ดีที่สุด... ไม่ต้องไปฝืน...
และ อีกหน่อยก็จะชินไปเอง...