วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ครั้งหนึ่งเคยรักกัน



อาจมีใครสักคน ที่เราใส่ใจเขาได้มากกว่าตัวเอง
ใครคนนั้น... มีความสำคัญสำหรับเรามากที่สุด
ใครคนนั้น... มีอิทธิพลต่อความรู้สึกสุข-ทุกข์ของเราทุกเวลานาที
ทำให้เราหัวเราะ หรือร้องไห้ได้ในเรื่องราวต่างๆ... ร่วมกับเขา
เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของใครคนนั้น... โลกก็พลันสว่างสดใสขึ้นมาทันที
แม้ว่าเพิ่งจะมีพายุพัดซัดกระหน่ำมาก่อนหน้านี้ ก็ตาม
อาห์... อำนาจอันใหญ่หลวงแห่งความรู้สึก "รัก"
มันทำให้คนๆ หนึ่งหลบอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ยิ้มและร้องไห้ราวกับคนบ้า
ป่านนี้... ใครคนนั้น ที่เป็นสาเหตุแห่งเรื่องราวทั้งมวล
อาจอยู่ที่ไหนๆ สักแห่ง... กับใครสักคน... ที่เขารักมากที่สุด
แต่ที่แน่ๆ... ไม่ใช่ "เรา" คนนี้... ทั้งที่เราอยากให้ใช่แทบตาย
ช่างเถอะ... ขอแค่ได้รับรู้ว่าใครคนนั้นมีความสุขกายสุขใจ
เราก็ "ดีใจด้วย" อย่างที่สุดแล้ว
นี่กระมัง คือ ความสุข ที่เกิดจากการได้รัก...อย่างบริสุทธิ์ใจ



ฉันปิดไดอารี่เล่มเล็กในมือลงด้วยความรู้สึกหดหู่... เปิดอ่านคราใดก็ให้หวนคิดถึงผู้เป็นเจ้าของ...
สาวน้อยชุดดำคนนั้น ถูกพาตัวมาพบฉันด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ตาบวมเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ฉันกล่าวสวัสดี แล้วพาเธอไปนั่งที่โซฟาข้างหน้าต่าง ก่อนจะเดินไปกดล็อคประตู...
เธอผินหน้าออกนอกหน้าต่าง น้ำตารินไปตามร่องแก้ม... ฉันเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ หัวเข่าเกือบประชิด วางมือบนเข่าของเธอเบาๆ... มืออีกข้างเลื่อนกล่องทิชชูมาใกล้ๆ... ภายในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ฉันต้องพูดคุยกับเธอคนนี้เพื่อปลอบขวัญให้สบายใจขึ้น ช่วยให้เธอได้ระบายความทุกข์ หรือชี้แนะให้เธอได้ทบทวนปัญหาหนักอกของตัวเองอย่างชัดเจน ว่ามีอะไรที่ต้องเร่งรีบแก้ไขให้บรรเทา...


กว่าเธอจะไว้ใจฉัน ผู้ซึ่งเป็นเพียงคนแปลกหน้าและเพิ่งได้เจอกันเป็นครั้งแรก... ฉันไม่ได้เร่งเร้า... เราพูดคุยกันเหมือนพี่น้องไปเรื่อยๆ... ในที่สุด เธอก็แย้มพรายทุกข์ในใจให้ฟัง... มันน่าเศร้ามาก... เธอเพิ่งสูญเสียคุณแม่ไปไม่ถึงเดือน ด้วยโรคร้ายที่ใครๆ รังเกียจ... แม่ของเธอเป็นอดีตนางงามทำหน้าที่แม่บ้าน ส่วนพ่อทำธุรกิจตลาดนัด ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี มีผู้คนนับหน้าถือตามากมาย... เธอมีพี่ชายสองคน เกเรทั้งคู่และเสียชีวิตไปตั้งแต่วัยหนุ่มคะนองด้วยโรคเชื้อราขึ้นสมองเหมือนกัน... แม่ผิดหวังและทุกข์ใจอย่างมาก ได้แต่พร่ำวอนให้พ่อรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีๆ... 

วันหนึ่ง แม่ท้องเสียและอาเจียนมาก ต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน... ญาติๆ ที่มาเยี่ยม ต่างก็ทักว่าแม่ผอมไปเยอะ... หมอตรวจร่างกายอย่างละเอียดเกรงว่าแม่จะเป็นมะเร็ง... ที่สุดแล้ว ผลการตรวจแจ้งว่าแม่ปลอดภัยจากโรคมะเร็ง แต่มี 'เลือดบวก' ข้อมูลจากคุณหมอทำให้แม่แทบช็อคและเปลี่ยนไปเป็นคนละคน... คำแนะนำอื่นๆ ที่ตามมา หาได้เข้าหูแม่ไม่...
"พวกเราทำผิดอะไรนักหนา ถึงได้ถูกพระเจ้าลงทัณฑ์ซ้ำแล้วซ้ำอีกเช่นนี้?" เธอสะอื้นน่าเวทนา
แม่ของเธอปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในการรักษา... นอนซมกับเตียง นัยน์ตาเลื่อนลอย... น้ำตารินตลอดเวลา... หมอต้องให้ยาลดภาวะซึมเศร้าผสมน้ำเกลือหยดช้าๆ อย่างต่อเนื่อง... ข่าวของแม่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วจนถึงหูพ่อที่อยู่ตลาดนัดของอีกจังหวัดหนึ่งไม่ไกลนัก... พ่อเองก็เสียใจไม่น้อยและยอมรับกับลูกสาวว่าเขาคือต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด พ่อลงโทษตัวเองด้วยการดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้เลย... แน่นอนว่าเธอคือคนที่แบกทุกข์หนักหนาที่สุดตอนนั้น


พ่อไม่กล้าโผล่หน้าเข้าไปเยี่ยมแม่... เมื่อเมาสิ้นสติไปหลายครั้งหลายหนจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ขาดสง่าราศีแล้วไม่ได้อะไรขึ้นมา พ่อจึงไปที่โรงพยาบาล นั่งคอตกอยู่หน้าห้องพิเศษที่แม่นอนป่วยอยู่ข้างใน... ทุกวัน...
"เชิญข้างในสิคะ คุณลุง... คนไข้เรียกหาอยู่บ่อยๆ นะคะ... " พยาบาลแจ้งให้เขาทราบ เขาพยักหน้าขอบคุณ แต่ก็มิได้ขยับตัวเข้าไปข้างใน... เขาขบกรามจนเป็นสันนูน เงยหน้าขึ้นเพื่อมิให้น้ำตาของลูกผู้ชาย หยดลงมา... จากนั้นไม่นาน แม่ก็ทรุดหนัก... หมอขอเชิญญาติไปคุยเป็นการส่วนตัว แจ้งให้ทราบว่าอาการน่าเป็นห่วง เพื่อญาติจะได้ทำใจแต่เนิ่นๆ... พ่อไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อออกจากห้องหมอแล้ว สาวน้อยก็คุยกับพ่ออย่างเปิดอก...
"แม่ฝากบอกว่ารักพ่อมาก ให้อภัยพ่อทุกอย่าง และอยากเจอหน้าพ่อมากค่ะ" เธอบอกอย่างชัดเจน
พ่อพยักหน้าซ้ำๆ น้ำตาของพ่อทะลักขอบตา หยดแหมะๆ... แม้จะยกหลังมือเช็ดเท่าไหร่ก็ยังไหลรินออกมาไม่อย่างขาดสาย... 
"พ่อขา เข้าไปหาแม่เถอะค่ะ นะคะพ่อ นะ..." เธอวิงวอนทั้งคำพูดและสายตา พ่อส่ายหน้าเบาๆ...
"พ่อไม่รักแม่แล้วหรือ?" คำถามของเธอทำให้พ่อถึงกับสะอื้นฮัก ก่อนจะปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น...

อนิจจา... ในคืนนั้น แม่จากไปอย่างสงบ... ยังความโศกเศร้าแก่ทุกคนโดยเฉพาะ... "พ่อ" 
ชายเดียวในดวงใจที่... "ครั้งหนึ่งเคยรักกัน"



การใช้ชีวิตบนความประมาท

ไม่เพียงแค่จะทำให้ตัวเองทุกข์กายทุกข์ใจเท่านั้น 

หากแต่ได้ส่งผลกระทบไปถึงบุคคลอันเป็นที่รักอีกด้วย

ดำรงสติให้มั่นคงนะ... เพื่อนเอ๋ย

รักษาตนให้พ้นภัยทั้งสิ้นเถิด

สาธุ... สาธุ... สาธุ

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ22 ตุลาคม 2555 เวลา 21:26

    เศร้าจังเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จ้ะ... เศร้า... ได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทหรือเปล่า?

      ลบ
  2. มันเป็น ลิขิตของกรรม เศร้าและซึมไป เหมือนกันคับ การใช้ชีวิตท่ีประมาท ขาดสติ ความรับผิดชอบ ย่อมนำความหายนะ มาสู่ครอบครัว น่ันคือส่ิงท่ี สาวน้อยบอกกับเรา คนเคยรักกัน วันท่ีต้องจากกัน ความผิดทำให้ไม่กล้าสู้หน้า กับความรัก. เฮ้อ!!!! อีกแล้ว คิดก่อนทำ....คิดเยอะอย่างเรา เลยสู้หน้าหารักได้ตลอด 55555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ่ะ แน่ะๆ.... แน้... สู้ๆ จ้าาาา....
      จงสำเร็จ จงสำเร็จ จงสำเร็จ... เพี้ยง!

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ23 ตุลาคม 2555 เวลา 02:10

    ครั้งหนึ่งเคยรักกัน...ไตร่ตรองดูว่าควรมีคร้ั้งสองหรือไม่...เพราะ...?

    โสกปริเทวทุกขโทมนัส สุปายาส ความเศร้าโศกเสียใจ เป็นทุกข์..ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจ..เป็นทุกข์
    มนุษย์เราไม่ควรประมาททุกวินาที ต้องอยู่กับสติตลอดเวลา
    ขอบพระคุณค่ะ ^pmp^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สาธุ... สาธุ... สาธุ...
      มีสติมากๆ ระวังจนเกินพอดี สติอาจแตกได้เน้อ... ปล่อยๆ วางๆ บ้างเต๊อะ... ๕๕+

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!