วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อมทุกข์มาพูด


ห้าโมงเย็นวันหนึ่ง ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากลิฟต์ สองมืออุ้มตะกร้าเอกสารกองโตมาด้วยเช่นเคย กวาดสายตามองหาคนคอยด้วยใจประหวั่น ฉันมาช้ากว่านัดหมายปกติเป็นชั่วโมง เขาคงโกรธอีกเป็นแน่ เฮ้อ!...  แปลก ที่ฉันหาเขาไม่เจอ และกลับกลายเป็นฉันที่ต้องนั่งคอย หลังจากที่พี่คนหนึ่งเดินมายื่นจดหมายน้อยให้... “ไปผ่าตัด... รอแป๊บนึงนะ”... อืมห์... ค่อยยังชั่ว... 

ฉันวางสัมภาระลง เอ่ยปากฝากพี่เวรบ่ายแถวๆ นั้น ก่อนจะเดินตัวปลิวออกไปข้างนอกเพื่อช้อปฯ ฆ่าเวลา... เลือกซื้อของโปรดให้เขาได้หลายอย่างเลย มีทั้งไก่ทอดหาดใหญ่ ลองกอง มังคุด ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เพียงเท่านี้ก็ต้องงดมื้อเย็นแล้วล่ะ... อ้อ ยังมีของฝากให้เจ้าตัวขาวปุยอีกด้วย... ข้าวโพดต้ม... คงถูกใจไม่น้อย... ทั้งตัวโตๆ ยันตัวเล็กๆ...



โทรศัพท์มือถือสั่นพรึ่ดๆ ฉันรู้ได้ในทันทีว่าเขาเสร็จธุระแล้ว จึงรีบข้ามถนนกลับไปเอาข้าวของ... พรีอุ๊สคันงามเคลื่อนตัวเข้ามาจอดเที่ยบที่บันใดพอดี... ฉันยิ้มให้นิดนึงแล้วถามเบาๆ “หิวมั้ยจ๊ะ” เขาพยักหน้าหงึกๆ “น้ำๆ”.... ตายจริง ฉันลืมไปเสียสนิทเลย ได้แต่ส่ายหน้า แล้วก็แกะลองกองตันหยงมัสป้อนให้เรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบ้าน...


คืนนั้น... ฉันได้ยินเสียงถอนใจเฮือก ก่อนจะเอ่ยปากบอกเหนื่อย... ฉันโอบแขนไปรอบตัวเขาแล้วโยกตัวไปมาอย่างช้าๆ... ไม่นานก็ได้รับฟังความหนักใจบางอย่าง ซึ่งนานๆ ทีจะหลุดปากเล่า... ชีวิตความเป็นหมอนี่ช่างหารอยยิ้มได้ยากยิ่ง วันๆ เจอแต่คนอมทุกข์ ทั้งทุกข์กาย ทุกข์ใจ... แต่ละคนมาพบหมอด้วยปัญหาหนักอกและมีสีหน้าหนักใจด้วยกันทั้งนั้น... ฟังข้อมูลจากปากคนไข้แล้ว จะยิ้มหรือหัวเราะก็ใช่ที่ เดี๋ยวดีไม่ดีจะถูกหาว่ายิ้มเยาะไปซะนี่... อืมห์ มันก็จริงแฮะ...

บางรายไม่ได้เป็นอะไรมาก ผลการตรวจทุกระบบก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ลึกๆ แล้ว ปัญหาอยู่ที่ความวิตกไปล่วงหน้า กลัวจะมีอันเป็นไปเช่นเดียวกับคนรู้จัก... ซะงั้น

บางราย โรคและอาการน่าเป็นห่วง แต่หลังจากได้รับฟังคำอธิบายเกี่ยวกับโรคที่ป่วย แผนการรักษาและการปฏิบัติตัวต่างๆ จบลงแล้ว กลับมีท่าทีเฉยๆ เหมือนไม่รู้สึกอะไร ยังความหนักใจตกที่หมอเสียสิ้น จะพูดยังไงให้เขาเข้าใจได้ดีล่ะ?... ตรงข้ามกับบางรายที่ไม่ป่วยแต่ต้องการยา ขอให้หมอช่วยสั่งยานั่นยานี่ให้หน่อย ราวกับเป็นหมอเสียเอง โดยหาใส่ใจต่อฤทธิ์ข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์แต่อย่างใดไม่...

บางรายก็ป่วยเรื้อรังมานาน ทนทรมานจนรู้สึกเหนื่อยหน่ายท้อแท้กับชีวิตที่ไม่ยอมตัดขาดจากโรคและไม่ยอมลาโลกไปง่ายๆ ทำให้ญาติๆ ต่อว่าต่อขานหมอซะยกใหญ่ หาว่าฝีมือไม่เก่งพอที่จะดูแลรักษาให้หายเป็นปกติดีได้... อ้าว... หาหมอเทวดาดีกว่ามั้ย?

บางรายปกปิดข้อมูลสำคัญส่วนตั๊ว-ส่วนตัว จนเป็นมูลเหตุให้การวินิจฉัยโรคคลาดเคลื่อน เสียเวลา เสียทรัพย์และเกือบต้องเสียใจไปตามๆ กัน... บ้างก็ขอให้หมอช่วยปิดเป็นความลับให้ด้วย ห้ามบอกทุกคนแม้กระทั่งญาติสายตรง... ใครที่ไหนรู้เข้า (อายเค้า) ตายแน่ๆ... เง้อ...


บางราย รักษาจนหายป่วยไข้ดีแล้ว ขอบอกขอบใจร่ำลากลับบ้านไปแล้ว... รู้สึกนิยมชมชอบ ถึงขนาดแอบจดจำชื่อเสียงเรียงนามหมอ เอาไปตั้งเป็นชื่อลูกหลาน... เกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย

บางรายหนักข้อเอ๊ยหนักใจหมอเป็นที่สุด... เมื่อเห็นถึงความพยายามแวะเวียนมาขอตรวจอยู่บ่อยๆ เพียงเพื่อจะได้พบ ได้พูดคุยกันบ้างให้หายคิดถึง... แน้!!... ถึงตรงนี้ ฉันรู้สึกรับไม่ไหวแล้ว (โว้ย)... 

อ่ะ แฮ้ม... จึงจัดการปิดปากซ้าาาา..... อิอิ



8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ23 ตุลาคม 2555 เวลา 00:36

    โดยหน้าที่ทำให้คุณหมอๆ เครียดอยู่แล้วเมื่อกลับมาบ้านเจอศรีภรรยาที่เข้าอกเข้าใจแบบนี้..คุณหมอคง happy..นะคะ ภรรยาแบบนี้หายากส์..นะคุณหมอ คุณหมอโชคดีมาก..คุณหมอเค้าฟังมาทั้งวัน..แล้วคงไม่อยากได้ยินอะไรที่ไร้สาระ คงอยากพักหูบ้าง ช่างปะไรมีคนคิดถึงหมอน่ะดีแล้ว ดีกว่ามีคนเกลียด เรานึกว่าหมอเป็นของเรา เราคิดถึงได้คนเดียวงั้นหรือ..?ใครจะคิดถึงก็ช่างเค้าเต๊อะแบ่งๆกันไป..ฮ้า.เบาใจ..แต่ใจไม่เบานะ..ฮื่อ
    ขอบพระคุณค่ะ^kon chon^

    ตอบลบ
  2. หมอเป็นคนของประชาชน คงต้องมีคนรักบ้าง,ชอบบ้าง แต่ที่เกลียดเห็นจะไม่มี คนเป็นภรรยาคงจะไม่ต้องวิตกกังวลไปมาก และที่คิดเอาว่าคนไข้แกล้งป่วยเพื่อไปคุยกับหมอน่ะเห็นจะเกินไปหน่อยมั้ง จะไปก็ตามกำหนดนัดที่หมอสั่งเท่านั้นแหละ หรือถ้าจะมีก็คนเป็นโรคประสาทอ่อนๆแน่ ก็ต้องเขาสงสารเขาเหอะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ้าว... นี่ๆ... รู้จักโลกน้อยไปซะแล้ว... คู้ณ... คิคิ

      ลบ


  3. เป็นหมอเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนคนไข้ไม่เข้าใจหมอ แต่เมื่อพอกลับถึงบ้านมีคนที่คอยเข้าใจ
    รอคอยอยู่เครียงข้าง ความเหน็ดเหนื่อยทีมีมาจากโรงพยาบาลก็หายลงตรงที่บ้าน
    ผมก็รักคุณหมอครับ เพราะคุณหมอคือผู้รักษาผม ทุกๆสองเดื่อนคุณหมอต้องนัดให้ไป
    หา ทุกครึ่งปีคุณหมอให้ตรวจผลเลือด.....และปลายปีสิ่งที่ผมทำคื่อมีกระเช้าสวยๆมอบให้
    คุณหมอที่รักของผมเป็นประจำ ^___^ "รักคุณหมอ"

    ตอบลบ
  4. ผมมีน้องชายเป็นหมอ 1 คนหลานสาวเปนหมอ 1 คนอีกคนเรียนปี3 มหิดล คุยกันอยู่บ่อยๆ ว่าชาติท่ีแล้วคงทำบาปไว้เยอะ ชาตินี้เลยต้องไช้กรรม ช่วยชีวิตคน เจอแต่ส่ิงท่ีไม่เจริญหูเจริญตา ถ้าเลือกได้โดยไม่ฟังเสียงพ่อแม่ เค้าไม่อยากเรียนหมอ อยากเรียนเกษตรแบบอา เจอแต่ความสวยงาม ร่มร่ืน ไม่เจอเลือด และเสียงร้องทั้งคนไข้และญาติ เฮ้อ!!!อีกแล้ว อาชีพนี้มัน น่าช่ืนอกตรมเสียจริง สู้เราก็ไมได้ อยากหน้าช่ืนเราก็ไปหา หมอ ท่ีสามารถทำให้เราหายเครียดได้ .มีตวามสุขได้...555555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ๊ะ... หมายฟามว่าจะใดอ่ะ?... เด๋วๆ ช่วยอะติ๊บายโหน่ยจิ...
      เอ... หรือว่า คุณเจอหมอมุก... งั้นสิ... ชิมิ ชิมิ

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!