วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รักนะจ๊ะ@คนดีของฉัน


ตั้งแต่ส่งลูกไปเรียนซะไกลพ้น ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงตลอดจนเพื่อนบ้าน ต่างพากันอิจฉาสองตายายวัยโจ๋ที่มีโอกาสอยู่กันตามลำพังโดยปราศจาก กขค.  วันหยุดพิเศษ ก็พากันไปนู่นมานี่ เป็นการพักผ่อนไปในตัว... บ่อยครั้งเลือกที่จะติดดินโดยการนั่งรถตู้ รถไฟใต้ดิน ขี่จักรยานชมสวน... วันก่อนนู้น ก็ไปสยามพารากอน เดินชมของสวยๆ งามๆ จนขาลาก... พอบ่ายแก่ๆ ท้องร้อง จึงพากันแวะฟู้ดเซ็นเตอร์ หาที่นั่งพักประเดี๋ยว ให้พอทุเลาเมื่อยขาแล้วค่อยเดินสำรวจของกิน... ไม่นานนักก็มีหญิงสาวสองคนในชุดเครื่องแบบอะไรสักอย่าง คนหนึ่งผมยาวขาวอวบ ส่วนอีกคนคมเข้มแบบสาวหล่อ ทั้งคู่ถือถาดอาหารมานั่งที่โต๊ะข้างๆ ก่อนจะเริ่มการสนทนากันขึ้น...


“ใจเย็นน่าเธอ กินไปคุยไปแระกัน ยังไงซะ ฉันก็เข้าข้างเธอวันยังค่ำแหละ” คนขาวเอ่ยเอาใจเพื่อน

“ขอบใจมากนะเพื่อน มีแต่เธอเท่านั้นที่เข้าใจ และฉันพอจะปรับทุกข์ด้วยได้“ คนเข้มเปิดใจ สองสาว นั่งทานอาหารไปเรื่อยๆ... การสนทนาก็ออกรสมากขึ้น...

“ฉันละเหนื่อยใจกับสามีของฉันจริงๆ เขาช่างไม่เอาไหนซะเล้ย" อูย แค่เริ่มต้นก็เล่นเอาฉันหูผึ่ง...
“เขาชอบกลับบ้านช้า แถมเอางานกลับมาทำที่บ้านอีก หนังละครก็ไม่ดู จะดูแต่ข่าวการเมือง ดูกีฬาแล้วก็ดูหนังแผ่น บ้านรกหน่อยเป็นไม่ได้ กินเผ็ดๆ ก็ไม่เป็น ที่ร้ายที่สุดคือ เขาไม่สนใจฉันเลย... โอ๊ย เบื่อๆๆ เฮ้อ!” เธอถอนหายใจเสียงดังหลังพ่นจบ เพื่อนสาวเอื้อมมือมาลูบต้นแขนเบาๆ ก่อนจะยกแก้วน้ำให้ดื่มดับร้อนในใจ...

“ของเธอล่ะ แต่งงานก่อนฉันตั้งสองปี ไม่เห็นบ่นบ้างเลย คงจะโชคดีมากๆ สินะ” ชักอิจฉาเพื่อนแระ

“เฮ่ยใครว่าล่ะ ฉันเองก็เคยเป็นอย่างเธอนี่แหละ สามีฉันเสน่ห์แรงออกจะตาย... อกฉันงี้แทบระเบิด... วันหนึ่งฉันเกือบทนไม่ไหว ก็เลยเขียนๆๆ ระบายลงไปในไดอารี่ เชื่อมั้ยว่าความห่วยของสามีฉันมีตั้งสามสิบแปดข้อแน่ะ เท่ากับรอบเอวของเขาพอดี” ฮ่าๆๆ... ฮิ้ว!... สาวเจ้าขำกันเองอย่างสะใจ

“แล้วไงต่อล่ะ? เล่ามาซิ กำลังฟังเพลินๆ”... อืมห์ ฉันก็ด้วย...

“ฉันงอนเขามาก ก็เลยแอบหนีไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด กะว่าซักสองสามวันจะกลับ มาถึงแล้วค่อยอ่านให้เขาฟังอย่างชัดๆ ไปเลย” เธอเล่าอย่างได้อารมณ์ “แต่เผอิญว่าฉันต้องรุดไปช่วยงานศพลุงก่อน ... ลุงของฉันอายุเพิ่งย่างห้าสิบ เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ทิ้งให้ป้าวัยเดียวกันต้องอยู่เผชิญโลกตามลำพัง... ป้าเสียใจอย่างหนัก ทำใจไม่ได้เลย ร้องไห้ตลอดเวลา ไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอนและไม่พูดจากับใครๆ อีกด้วย” เธอหยุดซับน้ำตาที่เอ่อนิดๆ


“พอฉันไปถึง ป้ายื่นกระดาษให้สองสามแผ่น ฉันรับมาอ่านดู มันคือบันทึกจากใจของป้าเค้า” น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่น... “ป้าเขียนว่า 'ยอดรัก... วันนี้ทั้งวันฉันคิดถึงคุณตลอด สามสิบปีที่เราอยู่ด้วยกันมานั้น ฉันเอาแต่บ่นว่าคุณเสียๆ หายๆ จนกระทั่งถึงวันที่เราพรากจากกัน ฉันเพิ่งได้สติว่าฉันมองข้ามสิ่งดีๆ ของคุณไปอย่างไม่น่าให้อภัย'...” น้ำตาของเพื่อนเริ่มทะลัก จนอีกคนต้องขยับตัวเข้าไปโอบ...

“ตอนท้ายในกระดาษโน้ตนั้น ป้าบรรยายคุณความดีของลุงไว้เกือบร้อยข้อ ฉันอ่านไปร้องไห้ไปอย่างไม่อายใคร” เธอกำลังร้องไห้จริงๆ ทั้งสองคน...

ฉันกันพี่ชายได้ยินเรื่องราวนั่นเต็มสองหู... โอ คุณป้าท่านนั้น คงเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ได้บอกสิ่งดีๆ ให้สามีผู้เป็นที่รักได้ยินได้ฟังด้วยตัวเองในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่... เธอทำได้ก็แค่เพียงจารึกคุณความดีไว้ที่หลุมฝังศพหรือพิมพ์หนังสือแจกให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานฌาปนกิจศพเท่านั้น... นี่คือความจริงอย่างที่สุด...


วันนั้น ฉันไม่ใส่ใจว่าสองสาวนั่นจะคุยกันต่อไปอย่างไรบ้าง... แต่พอกลับมาถึงบ้าน ฉันกอดพี่ชายแน่นเลย แถมหอมแก้มซ้ายขวาอีกหลายฟอดจนหนำใจ... คืนนั้นก็ถือโอกาส สาธยายคุณความดีต่างๆ ให้เจ้าตัวเขาฟัง พร้อมกับบอกว่าฉันรักเขา... แรกทีเดียวเขามีสีหน้าแปลกๆ แต่ก็ยิ้มๆ รอยยิ้มของเขาดูอ่อนโยนและอบอุ่นกว่าที่เคย... พอฉันพูดจบ เขาก็เผยความในใจถึงข้อดีของฉันตั้งมากมายที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน... นับแต่นั้นมา “เรา” เข้าใจแล้วว่ารักคืออะไร...


จากนี้ต่อไป ไม่ว่าจะมีเวลาให้กันอีกสั้นหรือยาวสักแค่ไหน... เราจะไม่เก็บงำความคิด ความรู้สึกในด้านดีต่อกันไว้เฉยๆ หากแต่จะพูดและจะแสดงออกให้เป็นที่ประจักษ์แจ้ง ว่าเรา ♥ 'รักกัน' 


รักนะจ๊ะ ... คนดีของฉัน



11 ความคิดเห็น:

  1. รักช่างสวยงามครับยายจ๋า...แม้บางครั้งเราอาจทำให้เค้าอึดอัดบ้าง...แต่ก็ดีใจครับ.ว่าครั้งนึง.ได้บอกว่ารักเค้า
    ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับยาย..ขอบคุณจริงๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้ว... ได้คำตอบรับรึยังน้อ?....
      เพี้ยง... จงสำเร็จ... จงสำเร็จ... จงสำเร็จ... สาธุ!!

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ27 ตุลาคม 2555 เวลา 21:32

    รู้สึกอิ่มเอม อบอวล ยิ้มอยู่คนเดียว เรายินดีเมื่อเพื่อนมีความสุข ทำให้เราเบิกบานใจไปกะเค้าด้วย แม้ว่ามันเป็นแค่ภาพที่เกิดจากจินตนาการก็ตาม
    ใครก็ตามที่ได้รู้จักปรับเปลี่ยน เพิ่มสิ่งดีๆให้กับตนเอง นับว่าคนๆนั้นต้องได้รับสิ่งดีๆเข้าในชีวิตแน่นอน โดยเฉาะเรื่องของความรัก..มันคงทำให้เกิดความสุขใจ..อย่างผู้เขียนกระมัง.และคงมีบุญหนุนนำมาแต่ชาติปางก่อน.ด้วยส่วนหนึ่ง
    ไม่ต้องออมความลับในใจ.จัดเต็มเลยค่ะ.คงต้องเปลี่ยนกระปุกออมให้ใหญ่ขึ้นละค่ะ..คริคริ
    กราบขอบพระคุณ/ด้วยความจริงใจ......kon chon

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เอร๊ยส์เจร๊ยส์... เอากระปุกไปซ่อนมิดชิดแย้ววววว.... โด่วส์.... :)

      ลบ
  3. อ่านจบ..ก็รู้สึกอมยิ้มและอิ่มใจ ไปกับคุนยาย ที่สุดแล้วก็พบทางแห่งความสุข...ความเข้าใจ เป็นฐานที่แข็งแรง ในการอยู่ร่วมกัน มีเร่ืองเล่าถึงความเข้าใจกัน คล้ายๆกับของยายน่ีแหละคับ ไปเจอสาวคุยกันหลังจากท่ีไม่ๆได้เจอกันมานาน นัดแนะกันไปพักผ่อนที่รีสอร์ตแห่งหนึงพร้อมสามี จองห้องพักติดกัน กลางดึกห่ล่อนและสามี ก็ต่างคนต่างหลับ แต่เพ่ือนข้างห้องกับสามี หัวเราะต่อกระซิกกัน ดูแล้วน่าอิจฉาเสียจริง ต่ืนเช้าได้เวลาทาน อาหารเช้า 2 คนนั้นก็ยังหัวเราะกันต่อเน่ือง ทำเอาห่ล่อนและสามียิ่งซึมหนัก เข้าไปอีก จนทนไม่ไหวจึงแอบถามเพื่อนสาว ว่าดูน่าอิจฉาเธอจังเลย เห็นหัวเราะกันทั้งคืน เพ่ือนจึงเฉลยให้ฟังว่่า ก็ไม่มีอะไรมาก สามีเค้า บ่ มิ๊กไก๊ แต่ด้วยความเข้าใจกัน ก็ทำให้มีความสุขได้ เพื่อนเลยถามว่า ทำยังไง เพ่ือนเลยบอกว่า เมื่อคืนก็เล่นกับสามี จับของสามีตั้งขึ้น และทายกันว่าจะ้มซ้ายหรือขวา พอแทงซ้ายล้มขวา เราก็หัวเราะกัน ก็มีความสุขได้ เพื่อนเลยยิ้มได้....เราเองไม่ถึงขนาดนั้น แต่ยังหาคนที่จะพูด ให้เค้ารู้ ว่าเค้าดียังไง จึงได้รักเค้า จนหัวทิ่มหัวตำ ไม่ได้........

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หาต่อไปหั้ยเจอซะซิ... มัวช้าอยู่ใย....
      อย่าปล่อยโอกาสดีๆ ให้พลาดไปล่ะ... นะจ๊ะ นะ

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ27 ตุลาคม 2555 เวลา 21:52

    ชอบตั้งแต่เห็นชื่อเรื่องแล้วน่ารักดีค่ะ ยิ่งได้อ่านรายละเอียดจบก็ยิ่ง " รักนะจ๊ะ..คนใจดี.ของฉัน" ต้องเปิด Take me to your heart อิกละ ดูผู้เขียนเป็นคนที่อบอุ่นและยังสามารถทำให้คนอื่นอบอุ่นได้อีกด้วย.นี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน.จริงนะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ....ฟังดูแล้วเหมือนบทละคร เอาเถอะถ้าเป็นเรื่องจริง ผมก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย ที่รู้ตัวก่อนจะตายจากกัน และ รีบปรับตัวได้ทัน ช่างน่ายินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

      ลบ
    2. เปล่าซะหน่อยจ้ะ ฉันเป็นเพียงคนแก่ๆ ผอมๆ และพิการ...
      แถมมีคนบอกว่าน่ากลัวที่สุดใน g+ ฮ่าๆๆๆ... เอิ๊กส์ๆ...
      ขอบคุณจ้ะ ที่รู้สึกดี เมื่ออ่านผลงานของฉัน... อิอิ

      ลบ
  5. อย่างที่ผูเขียนนั้นทำถูกต้องแล้ว ยังมีชีวิตอยู่ให้ทำดีต่อกันไว้ ดีกว่าตายไปแล้วทำบุญส่ง
    ให้เสียอีก....เพราะเราก็ยังไม่รู้เลยว่าใครจะนำไปให้..เอาเป็นรูปธรรมในชาตินี้ดีกว่า^^

    ตอบลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!