วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รักเพื่ออะไร?

บ่ายวันหนึ่ง... ฝนตกพรำๆ อากาศน่านอนเป็นอย่างยิ่ง... ปกติแล้ววันอาทิตย์เป็นวันพิเศษสำหรับครอบครัว... แต่วันนั้นบังเอิญพี่ชายมีเคสผ่าตัดด่วน ส่วนเจ้าตัวเล็กก็ไปเรียนดนตรีไทย... ฉันจึงอยู่บ้านตามลำพัง... มีแขกคนหนึ่งแวะมา... เราทักทายและพูดคุยกันประสาหญิง... ในที่นี้ขอใช้สรรพนามแทนเธอว่า “กาน” เพื่อความสะดวกในการเล่า...


กาน คุยให้ฟังว่าเธอเพิ่งจะฟื้นตัวจากการแท้งลูกได้สองสัปดาห์ วันนี้ ต้องการนำกระเช้าผลไม้มาแสดงความขอบคุณ... ฉันรับไว้แทนด้วยความขอบคุณ... และเป็นเพราะฝนหนาเม็ดขึ้นเรื่อยๆ เราจึงคุยกันฉันท์มิตรอย่างไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ... กานค่อยๆ เล่าเรื่องราวของเธอให้ฟังทีละนิด เริ่มตั้งแต่แต่งงานกับแฟนหนุ่มรูปงามนามเพราะ ฐานะดี แถมมีอาชีพรับราชการมั่นคง... แรกๆ ชีวิตคู่มีความสุขมาก ทุกอย่างราวกับปูด้วยกลีบกุหลาบ ราบรื่น ชื่นสุขอย่างที่สาวหนุ่มหลายคู่ใฝ่ฝัน... พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็สนับสนุนด้วยดีและเป็นกำลังใจให้ตลอดมา... จนกระทั่ง กานเริ่มแพ้ท้อง ไม่นานก็ได้ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย น่ารักน่าชัง... ช่วงนั้น กานกับแฟนเหนื่อยแทบขาดใจ ลูกร้องกวนบ่อยๆ แทบไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน วันเสาร์-อาทิตย์แฟนหยุดงาน พอจะช่วยดูลูกให้ได้บ้าง... แต่กานต้องเลี้ยงลูกตามลำพังทุกวันไม่มีวันหยุดเลย... ช่วงหลังคลอดใหม่ๆ เป็นอะไรที่แย่มาก... ลูกน้อยร้องงอแงตอนค่ำทุกวัน เครียดจนทำอะไรไม่ถูก...

วันหนึ่ง แฟนกลับบ้านค่ำกว่าปกติเล็กน้อย...
“ทำไมคุณไม่รีบกลับบ้าน ไม่รู้หรือว่ากานเหนื่อยขนาดไหน” เธอต่อว่าสามีในทันทีที่พบหน้า
“ผมรีบมาเร็วที่สุดแล้วนะ ทำไมต้องรมณ์บูดด้วย” สามีกลับมาเหนื่อยๆ ก็ชักไม่พอใจเหมือนกัน
“คุณไม่มีทางเข้าใจหรอกว่ากานเหนื่อยแค่ไหน” เธองอนหนักเข้าไปอีก
“อย่าคิดว่าผมสบายกว่านะ ผมก็ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันเหมือนกัน” สามีโกรธที่กานต่อว่าต่อขานอย่างไร้เหตุผล... ต่างฝ่ายต่างขึ้นเสียงใส่กัน... ฝ่ายสามีไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด จึงเดินหนีไปทางประตูหน้าบ้าน...
“นี่ ห้ามไปไหนนะ กานอดนอนมาทั้งคืน แย่สุดๆ” เธอพูดเสียงดัง แฟนชะงักเท้านิ่งอยู่กับที่
“คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ เวลาที่กานดีๆ คุณก็อยากอยู่ด้วย แต่เวลาที่ย่ำแย่ คุณจะหนีไปอย่างนี้ ไม่คิดว่าตัวเองใจดำไปหน่อยหรือ?” กานตัดพ้อ ด้วยเสียงสั่น... น้ำตานองหน้า...
“ตอนนี้กานอยากให้คุณอยู่ด้วย ได้โปรด อยู่เป็นเพื่อนกานสักหน่อยเถิด อย่าไปเลย” ไม่เพียงคำพูดเว้าวอนเท่านั้น หากแต่กานผวาเข้าไปกอดรอบเอวของแฟนหนุ่มเอาไว้... เขาถึงกับอึ้ง ตีบตันที่ลำคอ  เวลาผ่านไปสักพัก กานขอบคุณเขาที่ไม่หนีไปไหนตอนนั้น สิ่งที่เธอต้องการจากแฟน คือ “กำลังใจ” เท่านั้นจริงๆ ...

เมื่อฟังเธอเล่ามาถึงตรงนี้ ฉันฉุกคิดขึ้นว่า คนเรารักกันเพื่ออะไร?... จริงสิ เมื่อคนสองคนตัดสินใจแต่งงานกัน พวกเขา (รวมทั้งฉัน) ทำเพื่ออะไรกันแน่... ???


เพื่อเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขงั้นหรือ? ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเผชิญกับความทุกข์เดือดร้อน อีกฝ่ายพร้อมจะรับฟัง ทำความเข้าใจปัญหาและช่วยแบ่งเบาทุกข์ไปด้วยกันหรือไม่... มันน่าคิดนะ... หลายๆ คู่ที่เตียงหักรักร้าว ยอมให้เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตคู่ เส้นทางรักหวานชื่นต้องกลับกลายเป็นเส้นขนานไป... สิ่งที่ยังคงหลงเหลือค้างคาในจิตใจ อาจมีเพียงคำถามว่า ฉันทำผิดอะไร? ถึงขนาดให้อภัยกันไม่ได้?


หากคนเรา ลดละซึ่งอัตตาแล้ว... ย่อมมีแนวโน้มที่จะทำอะไรดีๆ เพื่อคนอื่นได้โดยมิต้องฟังคำร้องขอ... รวมไปถึงการเปิดใจกว้างรับฟังคนอื่น ชื่นชมคุณงามความดีของคนอื่น... ขอบคุณ ขอโทษ ให้กำลังใจ ปลอบใจคนอื่น เสียสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อคนอื่น ฯลฯ... เหล่านั้น ถ้าหากใครได้ลองทำดูบ้าง จะรู้สึกได้ว่าความปลื้มปิติเกิดขึ้นในใจ สบายใจ เบิกบานใจ รู้สึกว่าชีวิตของตนเองมีความหมายคุ้มกับการเกิดมาเป็นคนกับเขาชาติหนึ่ง...

ฉันเคยบอกมาหลายครั้งแล้ว ว่าชีวิตของคนเรานั้นมันสั้นนัก... ยังมีเวลาเหลือให้ทำอะไรดีๆ ต่อตัวเองหรือผู้คนรอบข้าง ก็รีบๆ ทำเถิด เริ่มลงมือเสียตั้งแต่ตอนนี้ วันนี้ได้เลย... จะได้ไม่ต้องนึกเสียใจภายหลังว่ายังไม่ได้กระทำสิ่งดีๆ ต่อกันก่อนหน้านี้... แบบนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลยจริงๆ

มีอีกหลายคนทีเดียวที่ไม่สำนึกรู้ว่าตัวเองขาดอะไร? พลาดอะไรไปบ้าง?... โดยเฉพาะความพอดี ความสมดุลย์ของชีวิตและความรัก... อนิจจา... ช่างไม่รู้เอาเสียบ้างเลย ว่าชีวิต ความรักและความสุขนั้น มันยิ่งใหญ่กว่าความสำเร็จใดๆ... ยิ่งใหญ่กว่าเงินทองกองท่วมภูเขาเป็นไหนๆ... เนอะๆ




เพี้ยง!... ขอให้ทุกคนมีรัก มีคนดีๆ มารัก 
มีความสุข สมหวังในความรัก
และครองรักไปตราบนานเท่านาน

สาธุ... สาธุ... สาธุ


12 ความคิดเห็น:

  1. ถูกต้องที่สุด..ความรักและความสุขจากความรักนั้น มันยิ่งใหญ่กว่าความสำเร็จ
    ใดๆยิ่งใหญ่กว่าเงินทองกองเท่าภูเขาเป็นไหน
    ชีวิตคนเรานั้นสั้นจริงมีเวลาอยู่ก็ทำเพื่อตังเองและคนรองข้าง ก็ต้องรีบทำ..
    *ต้องขอบคุณ คุณหนูหลีมากๆ ได้ข้อคิดเตือนสติอย่างดี..สำหรับผู้ที่มีเวลา
    ...เหลืออยู่บนโลกนีไม่มากอย่างผมครับ.

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อย่ากังวลไปเลยจ้ะ เราต่างก็เดินทางไปสู่จุดจบของชีวิตด้วยกันทั้งนั้น... เพื่อนเยอะแยะ... อยู่ที่ว่าจะถึงคิวใครก่อนหลัง เท่านั้น... :)))

      ลบ
  2. ความปิติสุข จากการเป็นผู้ให้ มันรับรู้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ ค่ะ........ :)))

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จ้ะ ยินดีที่มีประสบการณ์ของปิติสุขอย่างแท้จริง นะจ๊ะ นะ

      ลบ
  3. บางคนก็อยากเข้า...บางคนก็อยากออก บางคนโชคดีท่ีได้คู่ครอง ซ่ึงแตกต่างกันมากมาย มีหลายส่ิงยอมรับไม่ได้ แต่ก็ยอมมันเพราะ ความรัก. ตัวเดียวเท่านั้น. บางคนก็ล้มเหลว นะ เราเองก็ไขว่คว้าหาเช่นกัน...ความรัก.

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เพี้ยง... ฉันขอให้คุณหาเจอไวๆ นี้ นะจ๊ะ นะ... สาธุ... สาธุ... สาธุ...

      ลบ
  4. คุณยาย. สีตัวหนังสือ สีชมพูกับสีแดง หลีกเล่ียงการใช้น่าจะดีนะ อ่านยากชะมัด เม่ือบนพื้นสีม่วง...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โอ... ขอบคุณมากที่กรุณาแนะนำ... ขอโทษเป็นอย่างยิ่งด้วยจ้า...

      ลบ
  5. ความรักจากคู่ครอง.มีอัตราการเสี่ยงเหมือนซื้อล็อตเตอรี่..มีหลายรางวัล..แล้วแต่โชควาสนาค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คิดดี พูดและทำดี... เป็นคนดี... ก็พอแระ
      ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามชะตาฟ้ากำหนดเหอะ... เนอะๆ... :)))

      ลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ15 ตุลาคม 2555 เวลา 22:53

    FC รองานเขียนของท่านอยู่ ระยะนี้งานคลอดช้าจัง หวังว่าคงได้อ่านอีกในเร็วๆนี้นะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออภัยเป็นอย่างสูงจ้า... วันนี้ มาแระ... หวังว่าคงเป็นที่พอใจ นะจ๊ะ นะ

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!