วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความเอ๋ยความลับ... ตอนคำอธิษฐานลึกลับ

เช้านี้ อากาศสดชื่น ฉันตื่นเช้าเป็นพิเศษ... คนข้างๆ ยังหลับอุตุราวกับเด็กๆ ที่จริงฉันไม่มีโปรแกรมจะออกจากบ้านไปไหนดอก แค่รู้สึกตัวตื่นแล้วก็ไม่อยากอ้อยอิ่งให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์เปล่าๆ สู้ลุกไปขยับกายสบายชีวีเสียยังจะดีกว่า... อาห์... ตีห้าครึ่ง ข้างนอกยังไม่สว่างเลย... เปิดโทรทัศน์เป็นเพื่อน แล้วหยิบไม้พลองมาวาดท่าต่างๆ เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างเคย... สบายตัวจัง สบายใจอีกต่างหาก... ด้วยอารมณ์ปลอดโปร่งเช่นนี้... ฉันหยิบสมุดบันทึกเล่มเก่ามาอ่าน... มีเรื่องราวดีๆ ที่เคยเขียนไว้...


นานมาแล้ว มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและวรรณกรรม ได้ร่วมมือกันจัดประกวดผลงานเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีสำนึกที่ดีงามในฐานะพุทธศาสนิกชน โดยกำหนดรางวัลไว้ค่อนข้างสูง มีผลงานส่งเข้าร่วมประกวดจากทั่วสารทิศจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าผลงานที่ได้รางวัลชนะเลิศนั้น ปราศจากข้อมูลผู้เป็นเจ้าของ น่าเสียดายยิ่งนัก... คณะกรรมการพยายามอย่างยิ่งที่จะควานหาตัวผู้เขียน แต่ก็ไร้วี่แวว... ผลงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชน... ซึ่งฉันโชคดีที่ได้อ่านเจอเข้าด้วยความบังเอิญ “คำอธิษฐาน 10 ประการ” มีสาระสอนใจพอสังเขปดังนี้ :-


ข้อ ๑. ขออย่าให้ฉันเป็นคนใฝ่ดีอย่างเลื่อนลอย... นั่งคอยนอนคอยโชควาสนา โดยไม่ลงมือทำความดีหรือไม่เพียรพยายามสร้างความเจริญก้าวหน้าให้ตัวเอง... หากจะได้ดีอะไร ก็ขอให้ได้มาเพราะทำความดีอย่างสมเหตุสมผลเถิด

ข้อ ๒. ขออย่าให้ฉันเป็นคนลืมตน เที่ยวได้ดูหมิ่นใครๆ ซึ่งอาจด้อยกว่าในแง่มุมต่างๆ ขอให้ฉันมีความเห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติผู้อื่น ตามความเหมาะสม อย่าได้แสดงท่าทีข่มขู่เยาะเย้ยใคร ขอให้มีความอ่อนโยน นุ่มนวล สุภาพเรียบร้อยเถิด

ข้อ ๓. ขออย่าให้ฉันเหยียบย่ำซ้ำเติมผู้คน ไม่ว่าใครจะพลาดพลั้งเรื่องใดๆ ทั้งชีวิตส่วนตัวหรือการงาน  หากเขามีทุกข์เดือดร้อนยามใด ขอให้ฉันจงมีเมตตา กรุณา หาทางช่วยผ่อนหนักผ่อนเบาให้แก่เขา เท่าที่จะสามารถทำได้

ข้อ ๔. ขออย่าให้ฉันรู้สึกริษยาหรือกังวลใจในความเจริญของผู้อื่น เมื่อได้รู้เห็นว่ามีคนที่มีความรู้ความสามารถทัดเทียมกัน หรือเหนือกว่า หรือผลงานโดดเด่นน่าชื่นชมยกย่องยิ่งกว่า ขอให้ฉันพลอยยินดีกับบุคคลเหล่านั้นด้วยความจริงใจ และให้การสนับสนุนส่งเสริมคนดีๆ เหล่านั้นด้วยเถิด...

ข้อ ๕. ขอให้ฉันเป็นผู้มีน้ำใจเข้มแข็งอดทน อย่าจู้จี้ขี้บ่นเมื่อต้องรับมือกับความยากลำบากใดๆ อย่าอ้อนวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วย อย่าอ่อนแอแสวงหาที่พึ่งเพราะไม่รู้จักพึ่งพาตนเอง... ขออย่าให้ฉันใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น... ให้ยินดีที่จะอดทนรอคิวตามลำดับก่อนหลังอย่างมีสติ...

ข้อ ๖. ขออย่าให้ฉันคิดเห็นแก่ตัว คิดเอาแต่ได้ เช่น เถลไถล ไม่ทำงานให้เต็มกำลังความรู้ความสามารถ รีบเลิกงานก่อนเวลา เป็นต้น ขอให้ฉันจงมีความขยันหมั่นเพียร มุ่งมั่นและภาคภูมิใจในผลงาน ไม่คิดเอาเปรียบผู้ใด... เมื่อใดที่เผลอหยิบข้าวของจากที่ทำงานไปใช้ส่วนตัว ขอให้ฉันระลึกอยู่เสมอว่าเป็นหนี้อยู่และพยายามใช้หนี้คืนด้วยการซื้อใช้หรือทำงานให้มากกว่าหน้าที่ เพื่อชดเชยทุกครั้ง... ที่สำคัญ ขอให้ฉันจงอย่าเอาเปรียบชาติบ้านเมือง เช่น การชำระภาษีตามกฎหมาย เป็นต้น

ข้อ ๗. ขอให้ฉันใฝ่สงบ มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ไม่ต้องเดือดร้อนในเรื่องการแข่งดีกับใครๆ อย่าได้คิดมักใหญ่ใฝ่สูง บ้าอำนาจ ยศศักดิ์ ฯลฯ เพราะมันคือกิเลสที่รังแต่จะเผาให้เร่าร้อน แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่นกันอยู่ตลอด จนไม่อาจสัมผัสได้ถึงความสงบสุข... ขอให้ฉันมีความเข้าใจซาบซึ้งในพระพุทธภาษิตที่ว่า “ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ละความชนะความแพ้เสียได้ ย่อมอยู่เป็นสุข” โดยที่เมื่อใฝ่สงบแล้ว ต้องอยู่อย่างไม่เกียจคร้าน สามารถสร้างความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมได้อย่างเหมาะควร

ข้อ ๘. ขอให้ฉันปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่นอย่างมั่นคง มีเมตตา กรุณา ช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ ไม่รู้สึกว่ามีใครเป็นศัตรูคู่อาฆาต ใครไม่ดี ใครทำชั่ว ทำผิดขอให้เขาคิดได้เอง กลับตัวเป็นคนดีได้ในที่สุด หากยังทำผิดทำชั่วอีกต่อไปก็เป็นเรื่องที่ยากจะช่วยได้ ซึ่งจะต้องรับผลแห่งกรรมในที่สุด โดยที่ฉันหรือใครๆ ไม่ต้องคิดแช่งชักให้เขาพินาศ...

ข้อ ๙. ขอให้ฉันใจเย็น ไม่โกรธใครง่ายๆ หากแม้นมีความโกรธขึ้นมาเมื่อใด ก็ขอให้มีสติรู้ตัวโดยเร็วว่ากำลังโกรธ จะได้ระงับยับยั้งใจตัวเองให้บรรเทาลง... หรือหากโกรธจนหักห้ามใจไม่ได้ ก็ขออย่าให้ถึงกับคิดประทุษร้ายผู้อื่น หรือคิดอยากให้เขาถึงความพินาศเลย... ขอให้ฉันอภัยทานได้ในเวลาอันรวดเร็ว มีจิตใจปลอดโปร่ง ปราศจากการพยาบาทจองเวร อย่าผูกใจเจ็บหรือเก็บความรู้สึกไม่พอใจนั้นมาขังอยู่ในจิตใจ ให้เป็นพิษภัยแก่ตัวเองเลย...

ข้อ. ๑๐ ขอให้ฉันมีความรู้ความเข้าใจในคำสอนของพระพุทธศาสนา ยึดเหนี่ยวจิตใจนำสู่การปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง ให้มีระดับจิตใจที่สูงขึ้น มีปัญญาเข้าใจปัญหาแห่งชีวิต สามารถปล่อยวาง จิตใจเบิกบาน เบาสบาย เจริญในทางธรรม และยังประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ... สาธุ


ฉันคิดว่าผู้เขียนที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวตนท่านนี้ มิได้ยินดียินร้ายกับรางวัลใดๆ ท่านเพียงแต่ต้องการถ่ายทอดความคิดของท่าน ให้เป็นที่รับรู้และเข้าใจในเจตนาอันบริสุทธิ์... สาระสำคัญจาก “คำอธิษฐาน 10 ประการ" นั้นเล่า ดูเหมือนว่าท่านเขียนไว้เป็นแนวทางเตือนใจหรือสั่งสอนตัวเอง...  ซึ่งหากใครอื่นได้ลองนำไปใช้ทบทวนตัวเองอยู่เสมอๆ ก็จักไม่เป็นผู้ทะนงตน สำคัญผิดว่าตัวเองนั้นดีพร้อม สมบูรณ์ไปหมดทุกประการแล้ว... ซึ่งนั่นเป็นความหลงผิดอย่างยิ่ง... ฉันเองได้แง่คิดมากมายจากเรื่องนี้ และหมั่นถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ตัวเราเป็นเช่นใด ควรต้องปรับปรุงอะไร อย่างไรบ้าง...


ผู้คนทั้งหลาย... เป็นไปได้หรือที่จะไม่มีความลับในใจเอาเสียเลย...

ฉัน... ได้ล่วงรู้ความลับของคนอื่นๆ มาแล้วไม่น้อย...

ยังเหลือก็เฉพาะ... ความลับ... ของคุณ!!

คิวต่อไป



12 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 ตุลาคม 2555 เวลา 01:22

    ยังไม่สาย.ที่เราจะได้ทบทวนตัวเองว่า เราควร.ตัด.ต่อ.เติม สิ่งใดให้กับชีวิตที่เหลืออยู่จะมากหรือน้อยไม่สำคัญ สิบข้อแต่เป็นร้อยเรื่องที่ผู้เขียนนำมานับว่ามีประโยชน์มากทีเดียว สำหรับความเป็นมนุษย์ โอ พระเจ้า ลูก จะพยายาม นะ แต่ดูแล้ว..ง่ายนี้สเดียว
    ว่าแต่ความลับของข้าพเจ้าที่เขียนไว้ ลงชื่อต่อท้ายไว้แล้ว ถ้าไปตกหล่นที่ใด คืนทางไปรษณีย์กะได้ เพราะมี address ด้วย ems กันหายด้วยเน้อ ขอบพระคุณสำหรับสิ่งดีๆที่ได้รับ ^pmp^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คร้าบ ป๋ม... ขอบคุงคร้าบบบบ... อิอิ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ16 ตุลาคม 2555 เวลา 02:15

    สาธุ... หักมุมจบได้เท่ห์มากค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุงที่ชื่นชอบจร้าาา... อิอิ

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ16 ตุลาคม 2555 เวลา 04:10

    แชร์ไปใน FB มีสาวกเช็คไลท์ ชื่นชอบผลงานอยู่ตลอดค่ะ มาบอกกล่าวให้ผู้เขียนยิ้มบ้าง ไม่ใช่จะให้ผู้อ่านยิ้มฝ่ายเดียว..เห็นมะ..ฮี ฮี แระ นี่คือกำลังใจที่จะช่วยให้ผู้เขียนมีพลังที่จะทำในสิ่งที่ชอบไปตราบเท่านานแสนนาน (อ้าวเผลอ นึกว่าเป็นผู้เขียนซะเอง)..นับว่าได้กุศลร่วมกันจริงๆ ขอพระคุัมครองให้ครอบครัวผู้เขียนอยู่เย็นเป็นสุข.สัญญาว่าจะติดตามผลงานตลอดไปค่ะ ขอบพระคุณค่ะ *ด้วยความเคารพรัก*

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุงจร้าาา... น่ารักอ่ะ... คิคิ

      ลบ

  4. 10 ข้อ "คำอธิษฐาน" ไม่อยากเลยที่จะนำไป ประพฤติปฏิบัติ มีแต่ประโยชน์ นำความสุข
    ความเจริญมาสู่ตัวเอง...ขอบคุณมากครับคุณหนูหลี

    ตอบลบ
  5. โยม...อาตมาว่า โยมลองพินิจพิจารณา ตัวคุนโยมก่อน ว่าคุนโยม เปนคนเช่นไร บกพร่องส่วนไหนบ้าง. ผู้เขียนเค้าแนะนะถูกต้อง ทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะต้องทำตามให้ได้ทุกข้อ ดูเปนบางข้อท่ีโยมต้องการเตือนตัวเอง ว่าหลงไปกับข้อไหนบ้าง อาตมาไม่อยากมีคนมาเรียกโยม. โยม ยับยั้งช่ั่งใจ ก็จะแก้ไขปัญหาได้เองแหละ ท่ีเม้นท์มาก็แค่เปนความคิดของอาตมาคนเดียว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบพระเดชพระคุณ นะเจ้าคะ หลงปู่ทวด... เง้อ...

      ลบ
  6. คำอฐิถาน 10 ข้อ เป็นข้อเตือนใจท่ี่ดี หากแต่ละคนนำไปใช้ ยามหลงทาง และคิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น และจะทำอย่างไรดี สำหรับผมนะหรือ มีอยู่หลายข้อทีเดียว จะเอาไว้ปรับปรุงสติตัวเอง เหมือนกัน อย่าถาม ว่าข้อไหน คุนฟังแล้วจะตกใจ........

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ฟังแระ กลัวตกใจ... ขอเป็นอ่านแทนดีหว่า... รีบๆ เขียนสารภาพมาซะดีๆ ล่ะ..

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!