วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

จูบไม่เป็นสับปะรด



ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ มีการจัดงานทอดผ้าป่าการศึกษาขึ้นที่โรงเรียนเก่า น่าเสียดายจริงๆ ที่ฉันไม่สามารถไปร่วมงานได้... เพื่อนๆ ย้ำว่าเดี๋ยวจะส่งเสื้อแจคเก็ตและทำเนียบรุ่นมาให้ทีหลัง... ฉันไม่ห่วงเรื่องเสื้อนั่น จึงถามไถ่ถึงเพื่อนสนิทอีกหลายคน ยินดีที่ได้ทราบข่าวคราวหลังจากที่ไม่เคยเจอะเจอกันหลายสิบปี... บางคนก็ยังครองโสด บางคนเป็นหม้าย บางคนเสียชีวิตแล้ว บางคนก็มีลูกอ่อน ขณะที่บางคนกำลังริรัก... เง้อ จะทันใช้มั้ยเนี่ยะ?


ตอนเด็กๆ ใครๆ ก็รู้ว่าฉันขี้อาย... แต่เพื่อนมันก็ยังอุตส่าห์เปิดใจปรึกษา ว่าทำอย่างไรจะฝากรอยจุมพิตให้แฟนประทับใจ?... เอร๊ย ไรว้า... เห็นฉันเป็นจอมยุทธ์เรื่องนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่? อะไรทำให้เลือกที่จะขอคำตอบจากคนอย่างฉัน? โธ่ แล้วกันซีเพื่อน... ฆ่าให้ตายไปเลยดีกว่ามั้ย?

ฉันอึกอัก ไม่สามารถสรรหาคำตอบให้เป็นที่ถูกอกถูกใจได้ในเวลาสั้นๆ... ยามนั้นจึงออกตัว ขอเวลาไปทบทวนตำราให้ชัวร์ๆ ก่อน เพื่อนบอกไม่รีบ แต่ขอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดูมันจิ...


เอาวะ เพื่อเพื่อน ไหนๆ มันก็ตัดสินใจจะเคี้ยวหญ้าอ่อนให้ได้แล้วนี่นา ช่วยมันซักครั้งไม่เห็นจะยากเกินความสามารถที่ตรงไหน... ว่าแล้วก็ตะลุยสืบค้นข้อมูลทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของเพื่อน...  แต่เอาเข้าจริงๆ ฉันกลับจดๆ จ้องๆ ไม่กล้าเขียนแฮะ จำต้องเลี่ยงตอบแบบอ้อมๆ น่าจะปลอดภัยกว่า ได้แกล้งมันไปด้วยในตัว ถ้าไม่อาจขมวดประเด็นสำคัญเอาเองก็ช่วยไม่ได้... อิอิ


แล้วฉันก็สาธยายวิชาการเชิงปฏิบัติตามแบบฉบับของตัวเอง ในรูปเหตุการณ์จำลอง... ให้เพื่อนอ่านไปปวดหัวเล่นๆ ไป...  ฮ่าๆๆ...


เมื่อสองหนุ่มสาวได้พบเจอกันเป็นครั้งแรก... เขามิอาจละสายตาไปจากเธอได้ สองเท้าจึงก้าวเพลินไปเรื่อยๆ จนเกือบชนเสาไฟฟ้า... ส่วนเธอเองก็คิดว่าเขาคนนี้คือเทพบุตรในฝันตัวเป็นๆ... นั่นคือความรู้สึกประทับใจแต่แรกเห็น ซึ่งทั้งสองมิกล้าพอที่จะสารภาพ ต่างระงับใจตัวเองไว้และเฝ้าแต่ถวิลหาอีกฝ่าย อยู่ตลอดเวลา... ยิ่งผ่านไปนานวัน ข้ามเดือนข้ามปี ล่วงเข้าปีที่เจ็ดแล้ว ก็ยังไม่คืบหน้าถึงไหนซะที ไอ้ที่หมั่นวาดฝันถึงโอกาสที่จะฝากรอยจุมพิตตรึงใจก็ยังไม่มีวี่แวว ทั้งที่เธอและเขาไม่เคยหยุดคิดถึงกันแม้แต่อณูของเสี้ยวนาที... มันยังไงน้อ?

ในที่สุด ฝ่ายหญิงมิอาจทนกับความหวั่นไหวภายในใจต่อไปได้ เธอจึงสารภาพความรู้สึกออกมา เพื่อลดความอึดอัดทรมานใจ... เมื่อเขาได้รับรู้เข้าถึงกับตกตะลึง ทำตัวไม่ถูกไปพักใหญ่... ครั้นพอระงับอาการตื่นเต้นลงได้บ้างแล้ว จึงขยับเข้าโอบตระกองกอดและจูบเธอที่แก้มอย่างนิ่มนวล สร้างความรัญจวนใจแก่เธอยิ่งนัก...


"จูบผมทีสิ คนดี" เขาขอร้องแกมบังคับในที เธอผงะ ขยับตัวถอยหลังหนี แต่เขาเร็วกว่า รุกคืบเข้าประชิด ประกบริมฝีปากฝากจุมพิตผ่าวร้อนให้เธอจนได้... ในที่สุด สิ่งที่เฝ้ารอมานานก็สัมผัสจริงเสียทีสินะ ไม่ใช่แค่เพ้อๆ ฝันๆ อีกต่อไป เธอกำลังเคลิบเคลิ้มจนแทบยืนทรงกายไม่อยู่...ทันใดนั้น ลิ้นอุ่นๆ ของเขาก็ชอนไชเข้ามาในโพรงปากแระเล็มลิ้มรสหวาน นั่นทำเอาเธอตกใจสุดขีด... ความรู้สึกต่อต้าน ขยะแขยงบังเกิดขึ้นในฉับพลัน เธออยากจะสำลักพอๆ กับอยากร้องไห้... จึงเริ่มดิ้นรนผลักใส สองมือทุบไหล่เขาหนักหน่วง จนต้องยุติซึ่งจุมพิตที่เพิ่งจะเริ่ม แล้วเธอก็หันหลังวิ่งจากไป... อนิจจา ความสัมพันธ์ที่เคยฝันเคยไฝ่มาก่อนหน้านี้เป็นอันพินาศสิ้นแล้ว... โอ๊ะ โอ... ความรัก มันจบลงด้วยการจูบก็ได้แฮะ...


เคยมีรายงานการสำรวจของชาวสเปน ระบุว่า 25% เลิกลากับแฟนเพราะไม่พอใจเทคนิคการจูบ... ซึ่งเมื่อเจาะลึกลงไป พบว่า 42% การจูบของทั้งสองฝ่ายไม่มีความดึงดูดใจต่อกัน... 15% รู้สึกว่าแฟนกำลังเลียในขณะจูบทำให้ไม่พอใจอย่างยิ่ง... มีงี้ด้วย... จำไว้นะ...

อันที่จริง มีตำราของชาวต่างชาติว่าด้วยศิลปะการจูบ ถูกตีพิมพ์และวางจำหน่ายมากมาย หรือใครสนใจจะค้นคว้าเอาจากหนังสือออนไลน์ก็มีเยอะ จะได้เรียนรู้แนวทางและเทคนิคแพรวพราวของบรรดานักจูบทั้งหลาย... ยิ่งศึกษาไว้มากๆ ก็อาจเอาชนะความอายหรืออุปสรรคอื่นๆ ได้มาก เมื่อถึงเวลาจูบจริงๆ... งั้นรึเปล่าไม่รู้...  ไปหาคำตอบกันเอาเอง...


อย่างไรก็ตาม การจูบเป็นเรื่องของคนสองคนที่รู้สึกดีต่อกัน แสดงการกระทำอย่างอ่อนโยน นุ่มนวล ตามสัญชาตญาณแห่งเพศและวัย... การเรียนรู้จากทฤษฎีหรือคู่มือต่างๆ มาแล้วนั้น เป็นแค่แง่คิดมุมมองบางส่วนที่อาจช่วยให้เกิดมโนภาพได้ลางเลือน หากแต่เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริง จะมีใครสักคนที่หยุด เพื่อคิดทบทวนก่อนว่าควรจะตวัดลิ้นเช่นไร เอียงหน้าด้านไหน หรือถอนหายใจวินาทีใด... ก็บอกได้แต่เพียงว่า ทุกส่วนของร่างกาย มันมีกลไกขยับขับเคลื่อนไปเองโดยอัตโนมัติ... อาเมน!

จัดให้ขนาดนี้แล้ว ถ้ายังจุมพิตให้แฟนประทับใจไม่เป็นอยู่อีก ก็เสียสับปะรดหมด... ชิ

 

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ24 เมษายน 2556 เวลา 04:24

    ถ้าจูบแล้วเป็นสับปะรด ขอเป็นสับปะรดภูแลนะ เพราะของเขาหวานอร่อยและสำคัญไม่กัดลิ้น นะนะ ได้โปรด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อย่าเลย... บางลูกอาจเปี้ยว ว ว ว ส์.... ;)

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 เมษายน 2556 เวลา 11:31

    Spot on with this write-up, I seriously believe this web site needs far more
    attention. I'll probably be back again to read more, thanks for the advice!

    Feel free to surf to my web blog ฟุตบอล

    ตอบลบ
  3. เด๋วต้องไปลองซะหน่อยแล้ว....ว่าจะเป็นสัปปะรด มังคุด หรือทุเรียน แต่มั่นใจว่าน่าจะโอ...นะคับ 555555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อย่าออกแนวกะปิ-ปลาร้าก็แล้วกันจ้ะ... ๕๕๕+

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!