วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

ฤๅฟ้ากำหนด



เมื่อสัปดาห์ก่อน ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นตั้งแต่เช้ามืด... ดูซิ ฟ้ายังไม่สว่างเลย... ปกติคนที่มักถูกปลุกในเวลาหลับเวลานอนไม่ใช่ฉันนี่นา... ใครมีอะไรฉุกเฉินนักนะ จะปลุกฉันทำไมกันหนอนี่หนอ?

"สวัสดีจ้ะ หนูหลีจ้ะ" ฉันทักทายเบาๆ น้ำเสียงงัวเงีย... ยังง่วงและไม่อยากรบกวนคนข้างๆ

"หนูหลี" เสียงผู้ชายเรียกชื่อฉันดังลั่นจนแทบผงะ ฉันนิ่วหน้ามองโทรศัพท์ในมือ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร? เบอร์ใคร? รู้จักฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?


"จ้ะ ฉันเอง... หนูหลี" ฉันย้ำไปอีกครั้ง นาทีนั้นไม่อยากถามและไม่อยากรู้ด้วย... ให้ตายซี...

สรุปว่า เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่คนหนึ่งซึ่งเราไม่เคยพบหน้ากันเลยตั้งแต่จบ ม.ต้น... กี่ปี่แล้วเนี่ย นับนิ้วไปมา... ว้าว! เกือบสี่สิบปีช่ะ... เค้าได้เบอร์โทรของฉันมาจากพี่สาวน่ะเอง อุตส่าห์โทรมาหาตั้งแต่ไก่โห่... เค้าให้เหตุผลว่าหากฉันออกไปธุระนอกบ้านแต่เช้าก็กลัวว่าจะไม่ได้คุยกัน... ทั้งที่มือถือก็พกออกจากบ้านได้นี่นา โธ่... ธุระสำคัญที่เพื่อนต้องการคุยด้วย คือ อยากให้ไปร่วมงานคืนสู่เหย้าที่โรงเรียน จัดขึ้นในวันที่ 14 เมษา... และย้ำว่าใครๆ อยากเห็นว่าฉันเปลี่ยนโฉมไปขนาดไหน...

"ก็แล้วทำไมถึงเลือกจัดงานวันสงกรานต์ล่ะ?" ฉันถามเพื่อน มันได้แต่หัวเราะหึๆ... สำหรับคนที่อยู่ไกลบ้าน แม้ว่าการเดินทางจะสะดวกกว่าสมัยก่อนก็จริง แต่สภาพการจราจรในวันหยุดพิเศษมันแสนจะคับคั่งจนขยับไปไหนไม่ค่อยออก... สถิติอุบัติเหตุก็เยอะ ปัญหานี้มันเป็นมาหลายปีแล้วแก้ไขได้ที่ไหน เฮ้อ...

ฉันบอกเพื่อนว่ายังคิดถึงและอยากเจอทุกคนเช่นกัน แต่ไม่รับปากว่าจะไปร่วมงานได้หรือเปล่า... ฉันไม่สะดวกเดินทางช่วงสงกรานต์จริงๆ และฉันก็เดินไกลๆ ไม่ไหวด้วยหลังจากเกิดอุบัติเหตุเข่าหักเมื่อหลายปีก่อน... ส่วนความร่วมมือที่เพื่อนต้องการ ฉันไม่ปฏิเสธ เช้าขึ้นก็รีบไปจัดการโอนเข้าบัญชีให้แล้ว และหวังว่าจะได้รับทำเนียบหรือภาพของเพื่อนร่วมรุ่นในไม่ช้า... ดีใจจังเลย...

ก่อนจะวางสาย... ยังได้ข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเพื่อนร่วมรุ่นอีกสองคน ทำเอาฉันอึ้งไปนาน... แรกทีเดียวฉุกคิดว่าคงจากไปด้วยอุบัติเหตุเพราะยังไม่แก่เฒ่า... หากแต่ปรากฏว่าทั้งคู่จากไปด้วยโรคเบาหวานและหัวใจล้มเหลว... โอ ฟ้าช่างไม่ปรานี พรากพวกเขาไปก่อนวัยอันควรเสียจริงๆ สู่สุขคติเถิดเพื่อนเอ๋ย...


เมื่อวางสายแล้ว ฉันยังคงนอนลืมตาโพลง หลับต่อไม่ลงแระ... ภาพของเพื่อนๆ ทั้งหลาย ยังติดอยู่ในความทรงจำและคงชัดเจนเช่นนี้ไปอีกนานเท่านาน...

วันคืนไปล่วงพ้นไปไม่กี่เพลา... เมื่อเช้านี้ ทางบ้านแจ้งข่าวมาว่า หลานสาวจากไปด้วยโรคมะเร็ง... ทำเอาเกือบช็อค ดูเหมือนเมื่อไม่กี่วันมานี่เองที่เราเพิ่งหารือกันอยู่หยกๆ เรื่องสถิติวิจัย... ฉันยังนึ่งข้าวเหนียว ตำส้มตำให้ทานเมื่อหลังปีใหม่... แล้วทำไมถึงจากไปอย่างรวดเร็วนัก... พระเจ้า! ไม่เล่นตลกไปหน่อยหรือ? 


จริงสินะ... การพยายามจดจำอะไรสักอย่าง มันอาจฝืนๆ ไม่นานนักก็ลืมเลือน
หากแต่การพยายามลืมใครสักคนที่เราเคยคุ้น คุ้นเคย 
ก็ไม่ต่างไปจากการพยายามจำใครบางคนที่ยังไม่ได้พานพบ นั่นแล...


จนกว่าฟ้าจะมีเวลา : พีซเมกเกอร์ Peacemaker


ฉัน อยากจะขอฝากโรเล็กซ์เรือนนี้ไปให้ฟ้า...
เผื่อว่าจะใช้ประโยชน์จัดสรรเวลาได้อย่างลงตัวและเลิกอ้างว่าไม่มีเวลาซะที... ชิ!

5 ความคิดเห็น:

  1. ความตายเป้นเรื่องไม่คาดคิด ผมเองเฉียดฉิวกับความตายมาได้ ตอนนี้อะไร
    ก็ยึดธรรมะเอาไว้ สร้างบุญกุศลไว้ เมื่อถึงเวลานั้น เราก็ว่าได้ทำสิ่งดีไว้กับตัว
    เองและคนอื่น ถึงเวลาไปจากโลกนี้จะได้ไปอย่างสงบ
    ไงก็เคยใส่มาแล้วโรเล้กซ์ แต่ก็อยากมีเรือนตามข้างบนนี้ใส่ก่อนตายสักเรือน
    ก็ดี จะได้เอาไปจัดสรรเวลาในชาติหน้า 5555+

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ข้อความตอนแรกๆ ดูเหมือนว่าทำใจได้เก่งแระ... ก็กำลังจะสาธุด้วย แต่พอเห็นความอยากในตอนท้าย... อืมห์... ต้องบอกให้ไปฝึกทำใจให้สงบอีกหลายๆ รอบ นะคุณโยม นะ... คริ คริ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ9 เมษายน 2556 เวลา 20:11

    การพยายามลืมใครสักคนที่คุ้นเคย มันไม่ต่างไปจากการพยายามจำใครสักคนที่ยังไม่ได้พบ..แต่ถ้าได้พบแล้ว ต้องจดจำแบบฝืนๆ ไม่นานคงลืม..นี่คือสัจธรรม
    แต่ฉันเมื่อผ่านเวลานั้นมาแล้ว..ฝากส่งนาฬิกายี่ห้ออื่นๆ อีกหลายๆเรือนไปมอบให้ฟ้าด้วย เผื่อท่านจะเมตตาจัดสรร ลัดคิวให้ก่อน ..นะนะ โปรดสงสารฉันด้วยเถิด...ขอบคุณเป็นที่สุด
    <3 konchon<3

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เด๋วเกิดฟ้าจัดสรรด่วนจี๋มาให้ตอนนี้ จะยังรับมือไหวอยู่ป๊ะ? ๕๕๕+

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ10 เมษายน 2556 เวลา 07:38

      ด่วนได้เท่าไรยิ่งดี. รับไหวยุแล้ว ใจจดใจจ่อยุหล่ะ นะฟ้านะ ขอบพระคุณล่วงหน้าถ้าฟ้าเห็นใจ...<3@<3

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!