ความเดิมตอนที่แล้ว ฉันติดค้างไว้ในประเด็นที่ว่า คนเค้ามองผู้หญิงเหมือนกีฬายังไง... ดูเหมือนคุณผู้อ่านจะไม่กล้าขยับต่อมเม้นต์... กัวอาราย ตอบผิดตอบถูกก็มะได้จำมะได้ปรับซะหน่อย โธ่... อ๊ะ ไม่เป็นไร ฉันเขียนของฉันไปเรื่อยๆ ก็ได้... ชอบไม่ชอบ บอกด้วยแระกัน... ถ้าจริงใจ อิอิ
ดูนะ... ผู้หญิง เมื่อย่างเข้าสู่วัยสาว... อายุประมาณ 15 หยกๆ 16 หย่อนๆ ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเมื่อครั้งเป็นเด็กหญิงโดยสิ้นเชิง... อกเป็นอก สะโพกเป็นสะโพก เอวกิ่ว แกมใส เวลาที่เขินอายก็จะแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ น่ายลโฉมยิ่งนัก... เป็นเหตุให้ชายหนุ่มทั้งโสดแลไม่โสดต่างพากันมองจนเหลียวหลัง จ้องจนตาไม่กระพริบ บางรายเผลออ้าปากน้ำลายยืดเลยก็มี... ที่เป่าปากวิ้ดวิ้วโห่ฮาก็มี... บ้างก็ส่งเสียงแซวเวลาคุณเธอเดินผ่าน เชียร์ซะลั่น ซ้าย-ขวา-ซ้าย... เล่นเอาคนเดินถึงกับขาสั่นแทบจะก้าวไม่ออก... นี่เองที่เค้าเปรียบกับกีฬาฟุตบอลว่ามีแค่คนยื้อแย่งเข้าครอบครอง... มันจริงมั้ยล่ะ?
ครั้นพออายุขยับไปเลยวัยเบญจเพส... อาจด้วยความที่มีวัยวุฒิคุณวุฒิเพิ่มขึ้น ความมั่นใจในตัวเองสูงตามภาวะผู้นำควบคู่กับบทบาทหน้าที่... จึงม้วนเก็บความสวยสดใสซื่อสะเทิ้นเขินอายของวัยแรกแย้มไปซะเฉยเลย... น่าเสียดาย... ฉะนั้นแล้ว โอกาสที่จะได้ปิ๊งๆ หนุ่มสักคนก็ลดลงไปตั้งเยอะแบบไม่ทันรู้ตัว... ผู้หญิงวัยนี้จึงถูกเปรียบกับกีฬาบาสเก็ตบอล ที่มีคนยื้อแย่งกันน้อยลงถนัดตา... อืมห์... มีใครจะเถียงมะ?
ยิ่งเมื่ออายุล่วงเลย 30 ปี ว่ากันว่าแทบจะไม่มีใครมอง ทั้งที่ริ้วรอยความชรายังมาไม่ถึง... เหมือนเพลงเค้าร้องกันติดหูว่าสามสิบยังแจ๋ว... แต่ในทางทฤษฎี ดูเหมือนว่าศักยภาพในการสืบสกุลจะเริ่มถดถอยอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้... ซึ่งสาวๆ ส่วนใหญ่ก็กำลังสนุกกับการทำงานทำเงินและไม่ได้เดือดร้อนอะไรนักกับการที่ยังไม่มีใครสักคนข้างกาย... นี่ก็ถูกเปรียบกับเกมกีฬาปิงปอง ที่ไม่มีใครอยากได้ ตั้งหน้าตั้งตาตีส่งให้เพื่อนลูกแล้วลูกเล่า โต้กันไปมาไม่มีใครยอมรับเอาไปง่ายๆ... ให้! มิอาวววส์!...
และเมื่อวัยล่วงเลย 50 ปีไปแล้ว... แม้ทางการแพทย์จะเรียกว่าวัยทองหากแต่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าดั่งทองได้ดอก... มีหลายคนพยายามจะรักษาสภาพยังแจ๋วให้คงอยู่... ขณะที่หลายคนปล่อยให้ตัวเองกลายร่างเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ กลุ่มนี้จึงถูกเปรียบเป็นกีฬากอล์ฟ ที่ถูกตีโด่งไปไกลๆ เล็งแล้วเล็งอีก เอาให้ลงหลุมไปเล้ย... โห ทารุณอ่ะ
ไงมั่งล่ะ... ฉันเฉลยไปครบถ้วนแล้วหนา เข้าใจเอาเองว่าผู้อ่านทั้งหลายคงได้รู้แจ้งกระจ่างใจโดยทั่วกันแระ แต่หากใครมีแนวคิดพิสดารแตกต่างไปจากฉัน จะโดยสิ้นเชิงหรือเพียงบางส่วน ก็สามารถโต้แย้งมาได้ไม่ว่ากัน... ฉันยินดีรับฟังเสมอจ้ะ... ถือเป็นการลับรอยหยักสมองไปในตัว... อิอิ
กีฬา ๆ เป็นยาวิเศษ ฮ้าไฮ้ ๆ... เพลงนี้ ฮิตติดหูมาตั้งแต่เด็ก สมัยนี้ไม่ค่อยได้ยินได้ฟังเท่าใดนัก ด้วยเพลงยอดนิยมถูกประพันธ์ขึ้นใหม่เรื่อยๆ ตามยุคสมัยใหม่เสมอ ซึ่งแม้จะเป็นเนื้อร้องที่ไม่เข้าใจความหมายก็พากันร้องตามได้เพราะดนตรีไม่มีกำแพง... ความหมายโดยนัยของฉัน แค่อยากจะบอกว่าทั้งกีฬาและนักกีฬา ล้วนต้องมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้แพ้รู้ชนะ... นั่นต่างหากที่เป็นหัวใจของการกีฬา... หากว่ามุ่งมั่นที่จะพิชิตชัยชนะแต่เพียงอย่างเดียว อาจถูกน็อคร่วงก็เป็นได้ แล้วเมื่อนั้นจักกล้าสู้หน้าผู้คนอยู่ได้ฤๅ หากมิรู้จักยอมรับความปราชัยเสียบ้าง...
ส่วนสาธุชนชาย-หญิงนั้นเล่า ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน วัยดึกและหรือวัยชรา หามีผู้ใดเลี่ยงพ้นวงจรความแก่ชรา ความเจ็บป่วยและความตายไปได้... ทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนมนุษย์ จึงควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ เรียนรู้ความมีหัวใจเป็นมนุษย์กันบ้างเถิด เรียนรู้ที่จะให้ก่อนได้รับ รู้จักรักตัวเอง ให้เกียรติผู้อื่น และที่สำคัญ... ได้โปรดรู้จักรักด้วยหัวใจภักดีตลอดกาล... โลกนี้จะน่าภิรมย์เป็นที่สุด... สาธุ.
ชอบกีฬากอล์ฟ...ก็คงไม่ได้ว่าเราไปชอบสาวอายุสัก 50 หรอกนะ
ตอบลบแต่กลับอุปมาว่าสาวที่อายุ 50 ขั้นจะถูกคนเขาตีโด่งลงหลุมไปโนน..น่าสงสาร
วัยอันล่วงเลยของสาวๆ ที่ผ่านไป
เวลาของหนุ่มๆ ก็ล่วงเลยเหมือนกันแหละจ้ะ... อีกสักพักเหอ สาวนักหวดมือโปรก็จะตีโด่งหนุ่มใหญ่ลงหลุมไปด้วยเช่นกัน... คริ คริ
ลบถูกใจมากๆ สาว 50 up จะต้องถูกตีโด่งไปให้ไกล ตกอีกฝั่งเลยยิ่งดี เพราะเรานัดให้คนไปรอเก็บอยู่แล้ว..มั้ยล่ะ ไม่ต้องการก็อย่าผลักไสไล่ส่งดังลูกกอล์ฟเลย..หนุ่มๆทั้งหลาย..เชอะ
ตอบลบอ่ะ จร๊ากส์... กอล์ฟลูกนี้เด้งกระเด็นกระดอน... ตกน้ำป๋อม!
ลบ