วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แกงไตปลาประสาข้อย


สองวันก่อน พี่ๆ จากโคราช บอกจะมาหาฉันที่บ้านเพื่อรับตัวไปร่วมงานศพของญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่วัดบางปะกอก... ความดีใจที่จะได้พบญาติๆ ซึ่งอยู่ห่างไกลและไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันเท่าที่ควร ฉันคิดๆๆ และครุ่นคิดว่าจะทำอะไรดีเพื่อต้อนรับพี่ๆ ให้ประทับใจ...

ความที่ฉันเป็นลูกหลอดและไม่ค่อยได้ทำอะไรด้วยตัวเองนักในเยาว์วัย... จึงอยากให้พี่ๆ ได้ประจักษ์ว่าฉันเปลี๊ยนไปมากมายแล้ว... อย่ากระนั้นเลย ไหนๆ ก็เป็นสะใภ้ใต้มานาน แกงไตปลาให้ชิมซะหน่อยดีกว่า... ว่าแล้วก็บึ่ง ม.ไซค์ ไปตลาดท่าอิฐตั้งแต่เช้า... ซื้อหาวัตถุดิบต่างๆ อันได้แก่ ปลาทูนึ่ง 2 เข่ง กะทิ 1  โล เครื่องแกงปักษ์ใต้ 1 ขีด มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว หน่อไม้ดอง เส้นขนมจีน แล้วก็ผักเหมือดคือมะม่วงเปรี้ยว ถั่วพูและแตงกวาลูกเล็กๆ... นอกเหนือไปจากที่กล่าวมาก็มีแล้วที่บ้าน... ใครอยากรู้เคล็ดลับของฉันก็ติดตามได้ จาแบไต๋ให้หมดไส้หมดพุงเลยช่ะ อิอิ...

ปลาทูนึ่งขนาดกลางเข่งละ 25 บาท แม่ค้าเพิ่งจะนึ่งเสร็จยังร้อนๆ อยู่เลย
เอามาย่างให้หอมและแห้ง เพื่อจะได้แกะก้างง่ายหน่อย

น้ำกะทิแยกหัว-หาง... ฉันบอกให้แม่ค้าช่วยปอกเปลือกสีเข้มๆ ของมะพร้าวด้วย

หน่อไม้ดอง หั่นชิ้นพอคำแล้วต้มซะหน่อยก่อนล้างน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง

ถั่วฝักยาว เป็นผักที่สะสมสารเคมีในระดับที่เป็นอันตราย... ต้องล้างให้ดีๆ ล่ะ
ส่วนลูกกลมๆ นั่น ดูออกหรือเปล่าว่าเป็น... เม็ดขนุนต้ม (ของโปรดของคุณย่า)

มะเขือเปราะ ล้างหลายครั้งจนสะอาด ตัดหัวท้ายผ่าสี่แล้วแช่น้ำทันทีนะจ๊ะ นะ

เครื่องแกงปักษ์ใต้ ออกสีขมิ้นชัดเลย ฉันอยากให้รสเด็ดสะแด่วและหอมสมุนไพร 
ก็เลยใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม กระเทียม พริกสด พริกไทยเม็ด ลงไป
แล้วโขลกต่อจนละเอียด เนียนแช้กๆ แบบเน้... อูย ชักเมี่ยยแขนแฮะ 

ม่ะ ลงมือแกงกันเลยดีกว่า... เริ่มจากเอาหัวกะทิตั้งไฟ

พอแตกมันส่งกลิ่นหอมๆ ก็ใส่เครื่องแกงและกะปิดีลงไป คนให้เข้ากัน

เคี่ยวให้หอม ระวังอย่าให้ไหม้ล่ะ จะราไฟหรือหยอดหัวกะทิเพิ่มก็ได้

นี่คือเครื่องปรุงหลักจ้ะ "พุงปลา" หรือ ไตปลาทู ฉันใส่ซะครึ่งขวดแบนเลย

ใส่ไตปลาลงไป คนๆ เคี่ยวๆ... ฮัดเช้ยส์... ลืมเปิดพัดลมดูดอากาศง่ะ... เง้อ...

แล้วก็ใส่ปลาทูย่าง เคล้าๆ พอเข้ากัน ใส่หางกะทิลงไปทั้งหมด แล้วเร่งไฟแรง

พอใกล้เดือด ก็ใส่หน่อไม้ ตามด้วยเม็ดขนุน สองอย่างนี่ถึงจะสุกแล้วแต่ก็จะไม่เละ

พอเดือดพล่าน ค่อยใส่ถั่วฝักยาวและมะเขือเปราะลงไป อย่าต้มนานเดี๋ยวเปื่อย

พอเริ่มเดือด ก็ใส่หัวกะทิ คนเข้ากัน ปรุงรสตามชอบ ใส่น้ำตาลปี๊บให้รสกลมกล่อม
ถ้าจืดก็เติมกะปิหรือไตปลาทู 
ถ้าเค็มก็ตัดด้วยน้ำมะขามสักเล็กน้อย แต่อย่าให้ถึงกับออกรสเปรี้ยวล่ะ
ถ้าทานกับขนมจีนคงต้องให้มีน้ำแกงเยอะหน่อย ก็เพิ่มน้ำสะอาดลงไปอีกสัก 2 ถ้วย
สุดท้าย โรยใบมะกรูดฉีกและลูกโดดลงไป ก่อนปิดไฟ... 

เสร็จแระ.... ไม่เห็นจะยากเกินกำลังตรงไหน

ระวัง อย่ากินเพลินเกินห้ามใจล่ะเด๋วเอวหายไม่รู้ด้วยเน้อ

ฉันขอตัวไปหม่ำก่อง... ใส่เส้นน้อยๆ ทานกะมะม่วงเปรี้ยวขูดฝอย... ซร้วฟส์!!

4 ความคิดเห็น:

  1. น้ำไยายไหลแย้ว ...บ่ายป่านนี้ไม่รู้จะไปหากินที่ไหนแล้ว
    น่าอร่อยและการผลิดถูกขั้นตอนถูกอนามัยมาก แต่จะหาโอกาศทำตามแบบนี้ครับ ขอบคุณมากๆ เคยทำเหมือนกัน และคนสอนก็มาจากใต้ แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเขาให้ใส่กระทิหรือเปล่า

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แกงพุงปลามีหลายสูตรมากจ้ะ แบบแห้งๆ ยังมีเล้ย... แล้วแต่จะพลิกแพลง... ให้เผ็ดสะใจและมีพุงปลาเป็นหลักเหอะ... ได้ฤกษ์ลงมือทำเมื่อไหร เอามาให้ชิมด้วยจะเป็นบุญโข นะจ๊ะ นะ... อิอิ

      ลบ
  2. ครับคุณหนูหลี

    มีเรื่องอยากบอกครับ การขึ้นสังเวียนชกครั้งนี้ ผมผ่านไปแล้ว 2 ยก เหลื่ออีก 3 ยก ไม่รู้จะชกครบ 5 ยกหรือเปล่า ค่อยๆให้กำลังใจนะ หมด 5 ยกแม้ไม่ชนะก็ย้งได้พักการชกบ้าง (เรื่องการเจ็บป่วยของผมครับ การให้คีโม)

    ตอบลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!