วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ที่สุดของชีวิต



วันก่อนที่ฉันหายเงียบไปนั้น ไม่ได้เจ็บป่วยไข้อันเนื่องมาจากเพลิดเพลินเดินตากฝนเล่นอย่างเคยๆ ดอกหนา แต่เป็นเพราะได้รับข่าวกะทันหันว่ามีญาติผู้ให้ท่านหนึ่งป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลแถวสุขุมวิท อาการน่าเป็นห่วง...


ฉันจึงรีบบึ่งไปอย่างไม่รีรอ โดยสารรถ BTS จากสถานีต้นทางที่หมอชิตปลายทางคือสถานีทองหล่อ ใช้เวลาแป๊บเดวจริงๆ แล้วก็เรียกแท้กซี่ไปต่ออีกหน่อย แต่ด้วยความคับแคบของซอยทองหล่อและปริมาณรถก็หนาแน่น จึงเสียเวลามากโดยใช่เหตุ... รู้งี้ ยอมเดินเรียกเหงื่อซะน่าจะถึงเร็วกว่า... เง้อ...


ICU2 คือจุดหมายที่ต้องไปให้ถึงโดยเร็ว ที่นั่น... คนไข้สูงวัยนอนเหนื่อยหอบท่ามกลางสายระโยงระยางที่ติดแปะไว้เต็มไปหมด มือและเท้าบวมเป่ง ผิวบางใสมีเลือดสีแดงช้ำแผ่ซ่านใต้ผิวหนังทั้งสองแขน... หน้าจอมอนิเตอร์สำแดงกราฟและตัวเลขกระพริบวาบๆ อยู่เหนือหัวเตียง ดูแล้วใจคอไม่ค่อยดีเลย... ฉันจึงเดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ ได้รับคำอธิบายว่าอาการทรุดหนักมาสองวันแล้ว เส้นเลือดเปราะบางแตกเสียหายหมด ยากแก่การหาเส้นเพื่อล้างไตครั้งต่อไป ช่วงนี้ทำได้เพียงช่วยประคับประคองอาการไปเรื่อยๆ...


ญาติใกล้ชิดที่มาคอยเฝ้าดูอาการด้วยความรักและห่วงใยต่างมีสีหน้าอมทุกข์ โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก ท่าทางคงผ่านการร้องห่มร้องไห้มาไม่น้อย ตาบวมช้ำกันทุกคนและรินน้ำตาทุกเมื่อที่เจ้าหน้าที่เรียกหาญาติ... ฉันเองก็พลอยฟืดฟาดไปกะเขาด้วยคน... เฮ้อ... นาทีวิปโยคเช่นนี้ ฉันเคยผ่านมาแล้วถึงสามหน  เมื่อครั้งสูญเสียพี่สาว คุณแม่ และคุณพ่อ... ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยจริงๆ ไม่ช้าก็เร็วต้องได้เจอกันถ้วนหน้า และแน่นอนที่สุดว่าวันหนึ่งก็จะถึงคิวการจากไปของฉัน เช่นกัน...


ด้วยบรรยากาศอึมครึมเศร้าสร้อยทำให้ลืมความหิวไปเลย จนกระทั่งบ่ายสองโมงจึงได้ชักชวนกันไปหาอะไรทานเป็นมื้อเช้าควบเที่ยง ระหว่างทางเดินไปห้องอาหารต้องผ่านห้องโถงใกล้ๆ บันไดเลื่อน ซึ่งเขากำลังจัดงานฉลองครบรอบ 34 ปี มีคนตรีบรรเลงแผ่วหวาน ผู้คนแต่งกายหรูหรามาร่วมงานอย่างคึกคัก ในจำนวนนั้น มีดาราสาวสวยด้วยสองคน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคุณนาเดีย ส่วนอีกคนฉันจำชื่อไม่ได้... เห็นตัวจริงใกล้ๆ แหมช่างงามผุดผาดซะจริงๆ...

ขณะกำลังทานข้าวอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์ตามให้รีบกับไป ICU เร็วที่สุด... พอไปถึง คนไข้หายใจระรวยแผ่วลงเรื่อยๆ ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพร่ำบอกข้างหูว่าไม่ต้องห่วงกังวลใดๆ หลับให้สบาย  ขอให้มีสติมั่นคง ถึงพร้อมด้วยจิตอันเป็นกุศลมุ่งตรงสู่สรวงสวรรค์... สุดท้ายก็เฮือก ก่อนจะแน่นิ่งไป ณ เวลา 15.18 น. สิริอายุได้ 84 ปี... อาห์... เมื่อถึงคราวต้องละสังขาร จะมีใครเลือกได้ก็หาไม่ว่าจะขออยู่ต่อหรือขอไปก่อน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ... ไปสู่ที่ชอบๆ เถิดจ้ะ... สาธุ


ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าผู้แก่ในชนบทจำนวนมาก มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพดีสมวัยตราบสิ้นอายุขัย... ผิดกับผู้คนในเมืองใหญ่ ที่มีสถิติการเจ็บป่วยและตายด้วยโรคเรื้อรังมากขึ้น อาทิ เบาหวาน ความดัน ไขมัน โรคไต โรคหัวใจ... อืมห์! มันเป็นข้อเตือนใจที่ดีสำหรับคนรุ่นหลังอย่างเราๆ ท่านๆ น่าจะได้ตระหนักและรักชีวิตกันให้มากๆ... อย่ากินตามใจปากกันนักเลยเน้อ... เชื่อฉันซี...


น้ำเปล่าดีที่สุด หยุดดื่มน้ำปรุงรสหวานทุกชนิดกันเถิด นะจ๊ะ นะ

ด้วยความปรารถนาดีจ้ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!