วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รักนั้นฉันใด


"Love, it's like the wind. I can't see it but I can feel it"
ความรัก เป็นเหมือนกับลม ฉันไม่สามารถเห็นมัน แต่ฉันรู้สึกถึงมันได้


เปล่านะ ฉันไม่ใช่คนฉลาดปราชญ์เปรื่องในเรื่องความรักหรอก นี่คัดมาจากบทสนทนาในหนังเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วประทับใจมาก... "A walk to Remember"


ว่ากันตามความจริง ผู้ประพันธ์ทั้งหลาย ต่างก็น่าจะมีจินตนาการมาจากฉากตอนของความเป็นจริงนั่นแหละ ไม่ว่าจะประสบเข้ากับตัวเองหรือผู้คนรอบๆ ตัว... บ่อยครั้งที่เรื่องราวถ่ายทอดออกมาได้โดนใจผู้ชมยิ่งนัก แนวรักก็หวานซึ้ง... แนวโศกก็เรียกน้ำตาได้ท่วมจอเลยทีเดียว...

A walk to remember ถูกสร้างเป็นหนังเมื่อปี 2003 นำแสดงโดยนักร้องสาวชื่อดัง Mandy Moore ซึ่งสวยบาดตาจริงๆ... นอกจากนี้ คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา ก็ได้แปลเป็นหนังสือนิยายชื่อ "ก้าวรักในรอยจำ" ที่ทำรายได้ดีไม่แพ้เล่มอื่นๆ ของเธอ... สำหรับฉันแล้ว ไม่ชอบซื้อหนังสือมาสะสมเพราะนอกจากจะราคาสูงแล้ว ยังไม่มีที่จะเก็บอีกด้วย ลำพังตำราการแพทย์ก็เต็มตู้ไปหมดแระ... จึงทำได้เพียงอ่านผ่านๆ ตาที่ร้านหนังสือเท่านั้น...


ความรู้สึกประทับใจจากการดูหนัง (เสียงใน film) มันไม่เต็มร้อยนัก เพราะไม่เก่งภาษาพอจะเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง ผิดกับการอ่านจากหนังสือสักเล่ม ที่อินไปกับบทได้อย่างไม่น่าเชื่อ ช่างถ่ายทอดความรู้สึกเป็นตัวอักษรได้อย่างหาใดเปรียบมิได้จริงๆ แม้ว่าจะได้อ่านเพียงบางส่วนก็ตามที...

เรื่องย่อของ A walk to remember กล่าวถึงอดีตของหนุ่มสาวเคร่งศาสนาคู่หนึ่ง ตั้งแต่สมัยหนุ่มน้อยสาวน้อยที่บังเอิญได้จับคู่เต้นรำด้วยกันอย่างมิได้ตั้งใจ... หลังจากนั้น ฝ่ายชายก็ไม่เคยคิดจะชอบหรือรักสักนิด... แต่เธอคนนั้นกลับฝังอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างแนบแน่น แม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว... เธอ ไม่เหมือนคนอื่นทั่วๆ ไป ดูเชยๆ มีเพื่อนน้อยคน (แต่กลับชอบทช่วยเหลือเด็กกำพร้า เธอเป็นที่รักของผู้ใหญ่ในชุมชน) และเขาอายที่จะเดินไปไหนมาไหนกับเธอ... ทั้งคู่ มีโอกาสแสดงละครประจำปีด้วยกัน นั่นทำให้ความสัมพันธ์ค่อยๆ เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว... ในวันแสดงละคร หญิงสาวที่เฉิ่มๆ กลับกลายเป็นเป้าสายตาของผู้คนนับพันในโรงละครให้หยุดมองด้วยความตื่นตะลึงพรึงเพริด...ว้าว... จากนั้น ความรู้สึกบางอย่างก็ก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจนจนมิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไป...

ในตอนท้ายๆ... หลังจากสนิทสนมขั้นคบหาดูใจมาระยะหนึ่ง เจอหน้ากันทุกวัน เขาสังเกตได้ว่าเธอซูบลง แต่ก็ไม่เอะใจ... จนวันหนึ่ง เขาสารภาพรักกับเธอ... นาทีนั้น เหมือนว่าร่างของเขาหล่นลงไปยังหุบเหวที่ลึกที่สุด... เมื่อได้รับรู้ว่าคนที่ตัวเองมอบหัวใจให้ทั้งหมด กำลังจะจากโลกนี้ไป...

พอแระ... อยากรู้ต่อให้จบก็ไปหาอ่านหรือหาหนังมาดูเองจิ...



 

อืมห์... เป็นใครๆ ก็ไม่อยากเจอเรื่องเศร้าหรอก
ฉันก็ด้วยคนหนึ่ง
แต่มันเลือกได้ที่ไหนกันล่ะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ตถตา... มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง... สาธุ



6 ความคิดเห็น:

  1. ง่ะ มาหลอกให้อยาก (รู้เรื่องต่อ) แล้วก็จากไป งี้ทู้กทีซี่น่า..ฮึ่มส์

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ฮ่าๆๆ... ยั่วนิดยั่วหน่อย พอให้น้ำลายหก... คริ คริ...

      ลบ
  2. รักนั้นฉันใด...ปล่อยไปตามลม..ลมแรง ก้อดูจะคึกคักหน่อย ลมพายุุ ก้อดูจะบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้ไม่รู้เ็นยังงัย ลมมันช่างนิ่งสนิทซะเหลือเิกิ้น...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ก็คุณมัวแต่นั่งอุดอู้อยู่ในห้องแอร์ ส่งสายตาแลแต่เลขาฯ สาวๆ... ลมที่ไหนจะพัดพาพัดผ่านได้เล่า... โด่วส์...

      ลบ
  3. ปิดแอร์..เปิดหน้าต่าง ดีมั้ยคับ ยาย.....

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เปิดใจดีกว่าจ้ะ... อย่ามัวเสียเวลาเปล่าอยู่เลยน่า... เชื่อฉานนน...

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!