วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไม่ใช่ไม่ใช่... ตอน : ติดปีก



                ก่อนหน้านี้ ฉันเคยทำหน้าที่นักวิชาการฝึกอบรมอยู่หลายปี  อาจเพราะเจ้านายเล็งเห็นว่าหน่วยก้านยังไม่แกร่งพอจะเป็นจุดสนใจให้คนฟังตรึงตาตรึงใจได้ ก็เลยส่งฉันไปเค้าค่ายฝึกวิทยายุทธ์ในค่ายพระรามหกเกือบเดือน... ที่นั่น นอกจากจะเป็นสถานที่สำหรับฝึกทหารเกณฑ์แล้ว ยังมีฝึก รด. ฝึกลูกเสือ และค่ายกิจกรรมพิเศษสำหรับกลุ่มพิเศษอย่างฉันนี่แหละ... เง้อ ส่งฉันมาทำให้ครูฝึกเป็นลมแท้ๆ เลย... ขายขี้หน้าทหารเกณฑ์หมด... คริ คริ


              ทุกเช้า เวลาตีสี่ จะมีเสียงนกหวีดเป็นสันญาณเรียกรวมพลสำหรับทหารเกณฑ์ มันดังหวีดก้องเข้าสองหูเต็มๆ ใครไม่ตื่นก็ทนทายาทแระ ฉันงี้แทบจะลุกมาขอร้องให้หยุดเป่าแน่ะ... ไม่นาน ได้ยินเสียงรองเท้าวิ่งกันตุ้บตั้บๆ ไปที่สนาม ซึ่งกว้างมาก... แรกๆ ความตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมของพวกเค้าทำให้ฉันอดใจไม่ไหว ต้องลุกมาแอบส่องที่หน้าต่าง...


              โห ดูสิ... ยังมืดตึ๊ดตื๋อ... แต่พวกเขาต้องรีบตั้งแถวแล้วออกวิ่งรอบสนามอย่างมีวินัย และไม่ใช่แค่วิ่งเฉยๆ ยังต้องร้องเพลงปลุกใจไปด้วย... เสียงเพลงดังกระหึ่มวนมารอบแล้วรอบเล่า... วันแรกก็ล้วนแต่เป็นเพลงปลุกใจทั้งนั้น อาทิ เพลงศึกบางระจัน รักกันไว้เถิด ใต้ร่มธงไทย เราสู้... พอมื้อเที่ยง ได้เจอกลุ่มแปลกหน้าแฉล้มแก้มนวลไปนั่งหม่ำที่โรงอาหารด้วยเท่านั้นแหละ... เช้าวันต่อๆ มา เสียงเพลงที่ร้องดังกึกก้องเป็นพิเศษหน้าเรือนนอนของพวกฉันกับเพื่อนๆ รอบไหนรอบนั้น... ฉีดยาให้ฉันตายไปเถิดหมอ... ทู้กที...


ง่า... เอาจริงป๊ะ?


                พอถึงตีห้า เป็นเวลาที่กลุ่มของฉันต้องออกมาตั้งแถวหน้าเรือนนอน พวกเราก็ชินที่จะอาบน้ำแต่งตัวกันก่อนไปปฏิบัติภารกิจ แต่ที่นี่ไม่สามารถเลย... เพราะเรามากันทั้งหมด 31 คนแน่ะ ห้องน้ำไม่เพียงพอและใช่ว่าเราจะไปยืนอาบโล่งโจ้งโจ่งแจ้งได้อย่างทหารเกณฑ์ซะเมื่อไหร่... ดังนั้น จึงมีบางคนได้อาบบ้างไม่ได้อาบบ้าง ก็ไม่ว่ากัน คนที่ยังไม่ได้ทำธุระส่วนตัวนับว่าน่าสงสารเป็นที่สุด... ฉันเป็นหัวหน้าทีมที่จะต้องตื่นก่อนนอนหลังเพื่อนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีปัญหา... กิจกรรมบางอย่าง เพื่อนๆ ยังไม่มีใครรู้ล่วงหน้า นอกจากฉัน... โดยเฉพาะการทดสอบกำลังใจ ซึ่งก็คือ การโดดหอที่ความสูง 34 ฟุต... ว้าว! ... ครูฝึกกันฉันไว้เป็นคนสุดท้ายโดยหารู้ไม่ว่าฉันนี่แหละกลัวความสูงสุดๆ แต่ไม่บอกซะอย่าง... อิอิ


                เมื่อเพื่อนแต่ละคน ทยอยกันโดดหอ... ฉันก็เฝ้าดูพฤติกรรมการแสดงออก ได้หัวเราะท้องขดท้องแข็งกับธรรมชาติความกลัวของแต่ละคน... น่าสงสารคนที่น้ำหนักตัวเยอะๆ ที่มีท่าทางกลัวจนหน้าซีด ขาสั่น... พอร่างร่วงลงไป ก่อนที่เชือกจะตึง... มันเคว้งคว้างหลุดลอยจนร้องไม่เป็นภาษามนุษย์... อร๊ากส์! โอ๊ย! อึ๊บ! อุ๊บ! แม่จ๋า! แฮ้กๆ!... ฯลฯ... แขนขาก็ดิ้นกระแด่ว ๆ ไปมาเหมือนอึ่งอ่างกลางอากาศ... 


ครั้นพอเชือกตึง น้ำหนักตัวรั้งให้โยนไปมาช้าๆ ใบหน้าปะทะลมเย็นสบาย... นั่นแหละ จึงค่อยได้สติ บางคนกลับรู้สึกชอบและขอโดดซ้ำก็มี รวมทั้งฉันด้วย... ไม่กล้าถามหรอกว่าตอนฉันโดดครั้งแรก ฉันร้องอย่างไร และดิ้นตะเกียกตะกายเหมือนเขียดอยู่กลางอากาศบ้างหรือเปล่า... ฮิ้วๆ...


                เสร็จจากภารกิจทดสอบกำลังใจ... ทุกคนได้รับการติดปีกเป็นสัญลักษณ์ว่า "ผ่านมาแล้ว"... ครูฝึกบอกว่าบางคนถึงกับฉี่ราดก็มี... ซึ่งไม่รู้จริงแท้แค่ไหน... เอร๊ย แต่ไม่ใช่ฉ้านนนน... โด่วส์!


6 ความคิดเห็น:

  1. ใฝ่ฝันมาตลอดแต่ไม่ได้โอกาส. ชอบความสูง และมันท้าทายดีค่ะ เคยไปสถานที่ท่องเที่ยวเขามีบริการโดดหอ แต่ไม่มีพรรคพวกเลยซักคนที่สนใจ เพราะแต่ละคนมีเหตุผลว่ากลัวความสูงและเสียวไม่กล้า โธ่ เอ๊ย ทีเรื่องอื่นน่าเสียวหวาด กว่านี้ล่ะบ่ยั่น ว่าแต่ปีกนี้ดีนะมีคุณสมบ้ติพิเศษด้วย ขอยืมไว้ก่อนนะ
    ประสบการณ์นี้ ..ไม่ลองไม่รู้ ผ่านแล้วคงเข้าใจถึงความเคว้งคว้างกลางอากาศว่าเป็นเช่นไร คงต่างจากเคว้งคว้างบนพื้นราบแน่นอน ว่าแต่คนเป็นโรคหัวใจคงหมดสิทธิ์ อิอิ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อืมห์... ต้องลอง... ถึงจะรู้รสชาด... สะใจดีพิลึก จ้ะ

      ลบ
  2. ขอชมเชยผู้เขียน เยี่ยมค่ะ ในความกล้าหาญบนความหวาดกลัว ผ่านการทดสอบกำลังใจมาแล้วว่าเข้มแข็ง อดทน พร้อมที่จะเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดีทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัว และยังได้นำประสบการณ์ที่ประทับใจมาสร้างสรรค์งานเขียนให้มีรสชาติ น่าอ่าน และจะคอยติดตามผลงานต่อไปค่ะ
    (^_^) konchon

    ตอบลบ
  3. 555555. ขี้เกียจซักกกางเกง..กัวมันราดทั้งเนื้อและน้ำ....สุดยอดคับบบบบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อร๊ากส์!!... ประสบการณ์ตรงของคุณ ... หึ่ง ช่ะ

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!