วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

พี่สาวครับ @_@



ในที่สุด ชายหนุ่มรูปงามผู้เป็นเจ้าของเสียงเพลงซึ้งๆ ที่โด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองคนนั้น ก็ได้เปิดใจชี้แจงกับสื่อมวลชนแล้วว่าเขามีความสุขดีกีบวิถีชีวิตในรูปแบบที่ตัวเองเลือก คือ 'ชายรักชาย'... ชัดเจนไปเลย ไม่ต้องให้ผู้คนคอยกังขาหรือซุบซิบนินทาอีกต่อไป... อืมห์ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดทุกคนที่เกี่ยวข้องเอ๋ย อย่าได้ร้องไห้ฟูมฟายเสียดายมาดแมนของเขาอยู่เลย... ปล่อยให้เขามีเสรีภาพการเพศทางเลือกอันขาวสะอาดเช่นนั้นเถิด... อาเมน!


ส่วนคุณ "คมสันต์" ชายหนุ่มเชื้อสายจีนหน้าตาหล่อเหลา ผู้เป็นบุตรชายคนเล็กของครอบครัว เขามีพี่สาวสามคนที่ล้วนแต่ครองความโสด... ครอบครัวนี้หัวดี เรียนเก่งกันทุกคน แม้ว่าป๊ากับม้าจะเป็นคนรุ่นเก่าที่ไม่ได้เล่าเรียนก็ตามที ป๊าของเขาหอบเสื่อผืนหมอนใบมาจับเสือมือเปล่าในแผ่นดินสยามด้วยธุรกิจซื้อขายเล็กๆ น้อยๆ ประสบความสำเร็จเรื่อยมาจนถึงขั้นขยับฐานะเป็นเจ้าสัวใหญ่... บรรดาพี่ๆ ต่างช่วยกันบริหารจัดการธุรกิจของครอบครัวอย่างลงตัว ในขณะที่คมสันต์ หันไปเอาดีในอาชีพรับราชการเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ตามประสงค์ของผู้เป็นบิดา...

วันหนึ่ง มารดาเจ้าเนื้อไม่สบายมาก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ให้นอนพักรักษาตัวซะหลายวัน... โทษฐานมีอันจะกินนัก จึ่งได้โรคเรื้อรังติดตัวมาหลายอย่าง ทั้งเบาหวาน ความดัน ไขมัน และเส้นเลือดในสมองตีบ... อาการที่ยังแก้ไขไม่เรียบร้อยคือแขนขาอ่อนแรงไปครึ่งซีก... จำเป็นต้องมีใครสักคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จึ่งเลือก "แก้วตา" พยาบาลสาวหน้าตาน่าเอ็นดูคนหนึ่งมาเป็นพี่เลี้ยงประจำตัว... แรกทีเดียวทุกคนต่างก็เอ็นดูเธอยิ่งนัก เห็นตรงกันว่าเธอช่างปรนนิบัติเอาใจเก่ง พูดจาก็ดี กิริยามารยาทอ่อนหวานน่ารัก ไม่นานนักตำแหน่งว่าที่ลูกสะใภ้ก็ลอยมาตรงหน้า... เธอกังวลใจกับความไม่เท่าเทียมหลายๆ อย่าง แต่ในที่สุดแล้ว ก็มิอาจทัดทานใครๆ ได้ โดยเฉพาะใจของตัวเอง...


ผ่านไปเร็วเหมือนโกหก สามปีเต็มที่มุ่งมั่นอยู่กับภาระงานบริการทั้งต่อสมาชิกครอบครัวและหน่วยงาน... นั่นทำให้แก้วตาไม่ได้พักผ่อนเท่าที่ควร เธอมิเคยเอ่ยปากบ่นถึงความยากลำบาก ยังคงทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด... แต่ก็มิวายมีเรื่องขึ้นจนได้... สุดท้ายก็จำต้องถอนตัวถอนใจที่เจ็บช้ำออกไปจากตระกูลดัง... เพียงเพราะไม่สามารถปั๊มทายาทสืบสกุลได้สำเร็จอย่างที่ทุกคนคาดหวัง... น่าอนาถใจแทนเสียจริงๆ...


"คมสัตน์" ผู้โอนอ่อนตามคำบงการของผู้ใหญ่เสมอมา เขาสามารถตัดใจลืมแก้วตาลงได้อย่างง่ายดาย  แล้วเข้าวิวาห์รอบสองอย่างรวดเร็วกับ "กุลญา" สาวสวยรวยเสน่ห์ ทายาทสาวคนเดียวของเจ้าสัวร้านทอง... เขาพยายามฟิตแอนด์เฟิร์ม หวังให้อาม้าได้อุ้มเจ้าตัวเล็กสมใจไวๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววซักที... ฝ่ายสาวเจ้า "กุลญา" รู้สึกไม่ปลื้มกับครอบครัวขนาดใหญ่เอามากๆ เธอต้องการความเป็นส่วนตัวแบบสองต่อสอง... ไม่สนใจงานบ้านงานเรือน และไม่มีแม้น้ำใจจะไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบของใครทั้งสิ้น... งานนี้ ทำเอาป๊ากับม้าทุบอกตัวเองผางๆ... อยากย้อนวันเวลาไปคว้าตัวสะใภ้คนเดิมกลับมาซะให้ได้... โดยเฉพาะพี่สาวทั้งสามที่คอยพร่ำบอกแต่ความไม่ดีไม่เหมาะสมของแก้วตามาก่อนหน้า... ถึงตอนนี้ ต่างก็รู้สึกชิงชังกุลญาสาวสวยรวยเริดเชิดโก้โอหังอย่างมากมายเหลือที่จะกล่าว... บรรยากาศในบ้านคุกรุ่นสะสมนานวัน คมสันต์ฟังเสียงสวดของพี่สาวจนขี้หูสะเทือนแล้วสะเทือนอีก... เค้าอึดอัดคับข้องใจเป็นที่สุด คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว... อร๊ากส์!!


ในที่สุด เขาก็เอ่ยปากพูดอะไรออกมาบ้าง... 
"อาจต้องพากันไปเปลี่ยนเลนส์แก้วตาหรือไม่ก็ส่องกระจกเยอะๆ หน่อยนะครับ พี่สาวครับ" 
อูยส์!! ไม่เบาเลยนะ... น้องชาย...


"ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 %"  นี่เป็นบางส่วนในธรรมบรรยายของหลวงปู่ชา สุภัทโท  ท่านให้ข้อคิดไว้อย่างโดนใจจริงๆ... แน่นอนที่สุด ผู้คนมักเฝ้าดู/จ้องจับแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น  คิดแต่จะแก้ไขคนอื่นอยู่ตลอดเวลา... น้อยคนนักที่จักรู้สึกตัว มองย้อนเข้าไปในใจตน เพื่อทบทวน สำรวจตรวจตรา ว่าสิ่งใดที่ยังไม่ดี ไม่ควรทำ แล้วรีบแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือระมัดระวังมิให้กระทำสิ่งที่แย่ๆ นั้นซ้ำๆ ซากๆ... อืมห์...


อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่นให้เสียเวลาเลย
ภาวนามากๆ ดูตัวเองมากๆ เทอญ... 

อย่าเครียดกับเรื่องราวต่างๆ ของชาวบ้านนักเลย
ความทุกข์ จะว่าไปแล้ว มันก็เหมือนกับแผ่นกระดาษ
ถึงจะบางๆ เบาๆ แต่ถ้าถืออยู่เป็นเวลานาน ก็เกร็งจนเมื่อยมือได้
รู้จักปล่อย หรือวางลงเสียได้ ก็หายเมื่อยหายทุกข์ในทันที
สาธุ... สาธุ... สาธุ

  




พี่สาวครับ : จรัล มโนเพ็ชร
เพลงนี้ นักศึกษารุ่นน้อง เคยร้องให้ฟังอยู่บ่อยๆ... ไม่ยักซึ้งแฮะ
แต่มาวันนี้ ได้ฟังจากรายการมะจัง... รีบหาคอร์ดมาหัด... หนุกดี
เด๋วจาร้องให้พี่สาวฟังด้วยหล่ะ... คริ คริ...

  

ยัยตัวเล็ก บินกลับมาบ้านเพื่อให้กำลังใจคุณย่าที่เกิดอาการเส้นเลือดในสมองอุดตันเมื่อไม่นานมานี้... และอีกไม่กี่วันก็จะได้ร่วมทำบุญเนื่องในโอกาสพิเศษของครอบครัวดังเช่นทุกปีที่ป่านมา... ช่วงนี้ จึงออกไปเดินสวนจตุจักร เพื่อเลือกซื้อของฝากจากไทย... เวลาผ่านไปเร็วมาก เราเดินกันจนเหนื่อยเมื่อยล้าขาแข้ง อากาศร้อนอบอ้าว ยัยตัวเล็กเอ่ยปากบ่นว่ากระหายน้ำจังเลยค่ะแม่... ฉันก็เลยแวะซื้อน้ำส้มคั้นจากพ่อค้าตัวจิ๋ว อายุอานามน่าจะยังไม่พ้นเด็กชาย... เขามองหน้าแล้วถามเราสองคนว่า พี่ครับ พี่สองคนเป็นพี่น้องกันหรือเปล่าครับ... อ่ะเจร๊ยส์!


  

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ9 มีนาคม 2556 เวลา 17:55

    สัพเพ สัตตา..เป็นส่วนหนึ่งของชีวิประจำวันไปแล้ว..ดีที่สุดค่ะ
    สะกิดต่อม..เรื่องเพลง..ทำให้นึกถึง สมัยเรียน เคยได้รับจดหมายน้อย ไม่ทราบเจ้าของ มีเพลง ซ่อนรัก ของชรินทร์ .ซ่อนรัก รักซ้อน ยอกย้อนสลักใจ รักซ่อนฤทัย เหตุไฉน เธอจะรู้ ไม่กล้าเอ่ยปากให้นึกกระดากอดสู...สองปีต่อมาน้องผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา คมคาย หุ่นดี ตาหวานฉ่ำ มาสารภาพ..พี่ครับ...เอ่อ ๆ อ้าๆ ผมเป็นเจ้าของ จดหมาย พี่จำเพลงได้มั้ยครับ.ได้ค่าพี่ยังเอามาร้องเล่นกันทุกวันแต่ไม่ได้สนใจว่าเป็นของใคร แต่พี่ครับๆๆ อืมห์..ผมๆๆ ชอบพีครับ...
    ตอนนั้น เขิลล ...แบบไหนลืมไปแระ..นี่ไง ไม่ยักกะซึ้งแฮะ...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. บาปบริสุทธิ์ โทษฐานทำให้เด็กๆ หวั่นไหว... ต้องแผ่เมตตาเยอะๆ นะจ๊ะ นะ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ9 มีนาคม 2556 เวลา 19:07

    ใจ๋ฮ้อนพรืด..ให้ไว...รอฟังอยู่...คุณยายหน้าละอ่อน แข้งขากะอ่อน เมื่อยล้าเร็ว ดูแลสุขภาพด้วยนะ นะ เป็นห่วงที่สุด

    ตอบลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!