วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฤๅสวรรค์บัญชา



หลายปีก่อน ฉันเคยไปดูงานแพทย์แผนจีนที่เซี่ยงไฮ้ในฐานะผู้ติดตาม ได้แวะไหว้พระที่ภูเขาแห่งหนึ่ง มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่แกะสลักจากหินอ่อน งดงามมาก... ผู้คนต่างอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องความรัก โชคลาภและทายาทสืบสกุล ส่วนฉันได้แต่ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ให้โอกาสได้มาท่องเที่ยวในดินแดนที่สวยงามเช่นนั้น ไม่กล้าขออะไรมากกลัวผิดหวัง ในเมื่อมีคนแห่ไปขอนู่นขอนี่กันมากมายทุกวัน ฉันเลยไม่อยากรบกวน ปล่อยให้ท่านได้พักผ่อนบ้างดีกว่า สาธุ...


ความที่ต้องเดินไกล โดยใส่รองเท้าคัทชูย่ำไปบนถนนราดยางที่ขรุขระ ให้รู้สึกเจ็บระบมเท้าจนแทบไม่อยากก้าวย่าง ยิ่งเดินก็ยิ่งช้าลงจนรั้งอยู่ท้ายขบวน พี่ชายล่วงหน้าไปก่อนลิ่วๆ แล้ว... โชคดีที่มีคนใจบุญควักครีมบัวหิมะให้ทาถูนวดเท้าทั้งสองข้าง มันช่วยให้ดีขึ้นในทันทีจริงๆ... ใครคนหนึ่งเปรยขึ้นว่าฉันไม่น่าจะไปรอด ก็อึ้งกันไปพักหนึ่ง ก่อนจะได้ฟังเรื่องราวของหนุ่มสาวที่ไปเที่ยวภูกระดึง... ฉันฟังอย่างเงียบๆ ขาก็เริ่มก้าวเดินช้าๆ ซ้ายหนอ-ขวาหนอไปเรื่อยๆ... ในใจก็นึกขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกคน ที่พยายามเบนความสนใจของฉันให้จรดจ่อที่การฟังและการก้าวเดินจนถึงที่หมาย


ที่ฉันฟังมาวันนั้น... หนุ่มสาวกลุ่มใหญ่พากันขึ้นไปเที่ยวภูกระดึง สมัยก่อนความเจริญยังแทรกตัวไปไม่ถึง เส้นทางที่ต้องเดินนั้นทั้งไกล สูงชัน หนาวเย็น ชื้นแฉะและมีทาก... สาวน้อยคนหนึ่งบุกป่าฝ่าดงไปเที่ยวกับผองเพื่อนและคนรัก แต่ด้วยความที่ไม่เคยลำบากมาก่อน เธอเดินแทบไม่ไหว แรกๆ แฟนหนุ่มก็ใส่ใจคอยประคอง แต่ยิ่งเห็นเธอเดินช้าลง เขากลับออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด... กว่าจะไปถึงที่หมายก็เล่นเอาตะวันลับฟ้าไปนานแล้ว ไม่อยู่รอให้สองหนุ่มสาวได้ชื่นชมบรรยากาศโรแมนติกอย่างที่คาดหวังไว้ แถมยังต้องเดินย้อนกลับฝ่าความมืดอีกไกลโข มันทำให้ทั้งคู่มึนตึงต่อกันราวกับชิงชังมาช้านาน... และแล้ว เพื่อนอีกคนก็ทนใจจืดต่อไปไม่ไหว เข้ามาช่วยเหลือเธออย่างมีน้ำใจ... จากนั้น ความรู้สึกดีๆ ที่เธอเคยมีให้บางคนก็หมดสิ้นไป และเกิดความรู้สึกดีๆ  ให้กับอีกคนอย่างช่วยไม่ได้... นี่กระมังที่เรียกว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์(ใจ)คน...


ภูกระดึง แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ... ฉันรู้สึกกลัวจัง จนป่านนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปชมความงามของธรรมชาติสักที... ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อภูกระดึง ฉันเป็นต้องคิดถึงคนเล่าเรื่องคนนั้น... ได้ข่าวมาว่าเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว หลังจากแต่งงานไม่นาน ยังไม่มีบุตร... ชีวิตคู่ลุ่มๆ ดอนๆ เอาแต่ดื่มเหล้าหัวราน้ำ ใครห้ามปรามตักเตือนก็ไม่ฟัง จนกระทั่งล้มป่วยและจากไปอย่างรวดเร็วด้วยภาวะตับแข็ง... โอ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ... ขอให้ไปสู่สุขคติเถิด ไม่ต้องพานพบคนที่ไม่อยากพบ และไม่ต้องทำร้ายตัวเองเช่นนั้นอีก... สาธุ


ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ... คนเคยรักกัน เคยคิดตรงกัน ว่าจากนี้ไปจะร่วมชีวิตเป็นคู่ครองของกันและกันไปตลอด สุดท้ายแล้ว อาจมีเพียงไม่กี่คู่ที่สามารถนำพาความรักไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ... มันน่าจะมีสาเหตุมากมายใหญ่หลวงที่คอยทำลายความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันไปเสียสิ้น... และจุดจบของทุกๆ คู่ ย่อมกลายเป็นบทเรียนสอนใจที่ดีสำหรับอีกหลายๆ คู่ ทั้งนี้ รวมถึงตัวฉันด้วยแหละ... แม้ว่าวันนี้ ฉันยังอยู่รอดมาได้ แต่ก็นั่นแหละอะไรๆ ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกนาที เช่นกัน...


ไม่เป็นไร อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
ขอเพียงแค่อย่าให้ปัญหามันเกิดจากฉัน เท่านั้น ก็พอแล้ว... สาธุ


10 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ17 พฤษภาคม 2556 เวลา 06:18

    โอ๊ะ เจอแระคนเชยเหมือนเรา..เที่ยวมาซะทั่วถิ่นไทยงาม แต่ข้ามภูกระดึง..กำลังวังชาถอยลงๆโอกาสคงยากขึ้นทุกวัน..แต่ถ้าการเดินทางสู่ยอดภูเขาพัฒนาให้สะดวกเหมาะกะวัย..มะเราไปด้วยกัน..
    น่าสงสารจริงๆ รู้ซึ้ง รู้สึกเห็นใจ คนที่มีปัญหาเรื่องรองเท้ากับการเดินทาง ฉะนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อม..ปัญหาจะได้ไม่เกิดจากเรา..อืมห์ ขมวดมาได้ไงนี่ คริ คริ

    ตอบลบ
  2. ภูกระดึง. เค้าพูดกันว่า ถ้าผ่านได้ จะซาบซึ้งในความมีน้ำใจ ช่วยกันประคับประคอง จนถึงเป้าหมาย แต่เสียดายหาคนขึ้นไปด้วยไม่ได้. เลยวัดใจกะใครมะด้าย เฮ้อ!!!!ปานนี้อยากขึ้นก้อ มะมีแรงแล้ววววว555555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อยากขึ้นก็ติดต่อทัวร์ซี... กัวรัยเล๊า... ฉานก็อยากขึ้นหล่ะ เม้นต์แรกก็ด้วย... ว่าแต่คุงจาไปเมื่อไหร่ ช่วยบอกล่วงหน้าด้วยนะ... จาได้หลบทัน... เอาตัวม่ายรอดกังทั้งนั้ง... อิอิ

      ลบ
  3. 55555 บอกก่อนก้อไม่สนุกนะชิคับ แข้งขายิ่งเดินมะค้อยไหว. หวังจะได้ดูน้ำใจซะหน่อย....

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. งั้น... จัดทัวร์เองเลยจิ๊... ขอบัตรฟรีฉามใบ นะ นะ... เด๋วดูให้แลให้ แต่เรื่องช่วย... ไม่รู้ใครต้องช่วยใคร... เอาตัวบ่รอดเจงๆ... เห่อๆๆ...

      ลบ
  4. ฤาสวรรค์บัญชาเจงๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. บัญชาให้แคล้วคลาดตลอดมา... จนกระทั่ง... When where....???

      ลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ19 พฤษภาคม 2556 เวลา 18:39

    ระยะทางพิสูจน์ม้า..กาลเวลาพิสูจน์คน..มันชัดเจน..ถ้าใครยังไม่แน่ใจ
    ลองอีกสักครั้ง.เผื่อจะได้ความรูสึกดีๆกลับคืน .แต่เกรงว่าผลที่ได้จะหนักกว่าเคย.. เพราะม้าก็เหลาเหย่.บ่ลัก..กาลเวลาก็เนิ่นนาน.บ่เหงียเงี่ย
    เฮ้อ อะไรจะเกิดก็เกิด..เพราะสวรรค์บัญชา..จริงๆ
    จากโซ้ยโกว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อดีตก็คืออดีต... ผ่านไปแล้วก็ช่างมัน ลืมๆ ไปซะเหอะน่า...

      ลบ

เมื่ออ่านจบแล้ว เมนต์หน่อยดีมั้ย? อะไรก็ได้ที่อยากให้ฉันได้รับรู้... จากคุณ!