ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรในใจ จู่ๆ เจ้าตัวเล็กก็ชวนคุยเรื่องเพื่อนสนิทของเขา ฉันเลือกที่จะฟังมากกว่าพูด เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ได้รับรู้อะไรเพิ่มอีกหลายๆ อย่าง... ยอมรับว่าแนวคิดต่างไปจากตั
วตนของเรามากมายทีเดียว แต่ก็เข้าใจธรรมชาติความเหมื
อนและแตกต่างของบุคคล ย่อมไม่มีใครถูกทุกอย่างหรือผิ
ดทุกอย่าง และทุกคนมีสิทธิ์คิดในแบบฉบั
บของตัวเอง ใช้ความชอบใช้เหตุผลของตั
วเองเพื่อตัดสินใจด้วยตัวเอง... รวมทั้งต้องยอมรั
บผลของการกระทำในอนาคตอย่างปฎิ
เสธไม่ได้...
และก่อนนอนคืนหนึ่ง เขามาเคาะประตูก่อนเปิ
ดเข้ามา เพียงเพื่อจะถามเวลาตกฟากของตั
วเอง ซึ่งฉันตอบไม่ได้ ก็มันนานแล้วนี่นา ตอนเค้าอุแว้ๆ ฉันถูกเจี๋ยนอยู่บนเตียงหาได้รู้สึกตัวสักนิดไม่... จำต้องไปค้นใบสูติบัตรในกระเป๋
าเอกสาร โชคดีที่หาเจอง่ายๆ... ไม่ต้องถามก็พอเดาออกว่าจะเอาไปทำอะไร...ตามใจซี อยากทำอะไรก็ทำไป ขอเพียงอย่างมงายหลงเชื่อแบบไม่มีสมองก็พอ...
ไอ้ฉันมันแปลกคนเอ๊ยเป็นคนที่
ต่างจากชาวบ้าน ตรงที่ไม่
ชอบหมอดูเอามากๆ ต่อให้เป็นเกจิอาจารย์ของสำนั
กโหรที่มีชื่อเสียงลือลั่นฟั
นธง หรือเป็นคนทรงเจ้าเข้าฝีสั่นงั่กๆ ราวกับคนไข้โรคพาคินสัน หรือเป็นพระคุณเจ้าตามวั
ดดังๆ ที่ชอบแขวนลูกประคำทำยันต์อ่านอาคมพรมน้ำมนต์... โฮ้ย ฉันคนนี้ ขออยู่ให้ห่างรัศมีจะดีที่สุด... ใครจะว่าฉันบาปหนาหน้าบุญไม่มี-
ผีไม่คุ้ม ก็ตามแต่สะดวกเทอญ...
ความจริงที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธก็คือ ฉันคนนี้ได้ดูหมอเป็นประจำทุกวั
นอยู่แล้ว โธ่... ไม่เห็นความจำเป็นต้องไปดู
หมออื่นหรือให้หมอคนอื่นคนไหนๆ มาดูฉันหรอก แค่คนเดียวนี่ก็เต็มที่สุดๆ แล้ว ดูจนแทบจะเบื่อหน้ากันแระ... ว่ามั้ย? (นอกเรื่องจนได้ อิอิ)
ถ้าถามฉันว่า มีอคติกับการดูดวง-ดูหมอหรือเปล่
าเนียะ? ตอบได้เลยทันที... มีชัวร์! ตั้งแต่สมัยเด็กๆ นู่นแน่ะ... จำได้ว่าตอนนั้นเรียน ม.ปลาย ทางโรงเรียนพามาชมงานเกษตรแฟร์
ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน... คุณครูคนสวยท่านหนึ่งคว้าแขนฉั
นพาเดินไปไกล... เพื่อไปยังเต้นท์
ของสมาคมโหราศาสตร์ ให้ฉันยืนคอยนานเป็นชั่วโมง กว่
าจะซักไซ้ไร่เรียงจน
พอใจในคำตอบ ทำไมถึงเชื่อว่าหมอดูที่ไม่เคยพบหน้าค่าตากันเลย จะสามารถล่
วงรู้อดีต-อนาคตของตัวเองก็ไม่รู้... ต่อให้ทำนายอย่างมีหลั
กการและเหตุผลมากถึงมากที่สุดก็
ตาม คำตอบทั้งหลายที่ได้มา มันก็มีแค่ผิดกะถู
กเท่านั้น... โธ่!
ตกลงว่าวันนั้นคุณครูเต็มใจควักใบแดงๆ จ่ายไปเป็นฟ่อนเลยที
เดียว สีหน้ายิ้มแย้มแก้มปริ ผิดกับฉันที่ปั้นยิ้มไม่ไหวเพราะทั้
งหิวทั้งเมื่อยขาแถมยังกั
งวลใจที่หายตัวมานานจนเลยเวลานัดหมาย... บรรยากาศรอบๆ ตัวเริ่มมืดครื้ม อยากออกวิ่งตรงไปยังที่จอดรถบั
สให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากแต่ครูกลับออกปากให้หมอดู
ทำนายชะตาใหฉันฟรีๆ สักสามข้อ... โดยที่ฉันมิได้เอ่ยสักคำว่
าอยากรู้เกี่ยวกับอะไร...
หมอดูทำนายดวงชะตาฉันอย่างรวดเร็ว... อายุ 19 ปี จะมีเคราะห์ เดินทางชีวิตผิดพลาดแทบหมดอนาคตใครก็ห้ามไม่หยุดฉุดไม่อยู่, อายุ 20 ปี เคราะห์กรรมหนักกว่าเก่า เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นพิการ และยังบอกว่าฉันเป็นคนอาภัพคู่ จะอยู่เกาะคานทองไปจนวัยดึกถึ
งจะมีพ่อหม้ายมาติดพัน... โห ช่างกรีดความรู้สึ
กของเด็กสาวผู้ไม่ประสีประสาอย่างเลือดเย็น... ทำให้ฉันเก็บมาเป็นขยะอารมณ์อยู่ได้ตั้งนาน หวาดหวั่นว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ... กริ่งเกรงและเกร็งทั้งที่รู้ว่านั่นมันก็แค่หมอดูหมอเดา แค่คำทำนายที่อาจจริงหรือเท็จก็
ได้ แต่ก็ยังกลัวแบบไม่มีเหตุ
ผลสมควรอยู่ดี... โดยเฉพาะข้อแรกนั่น เล่นงานฉันจนประสาทพอที่จะทำตั
วเฉยชาไร้ความเป็นกันเองกับเพื่
อนชายแทบทุกคนเลยก็ว่าได้ ก้มหน้าก้มตาเรียนลูกเดียว... จนเมื่ออายุย่าง 21 ปี ก็ได้ข้อสรุปชัดเจนแจ่มแจ้งซะทีว่า "หมอดู คือเจ้าของลมปากที่มิควรค่าต่
อการเชื่อถือเลยสักนิด" โล่ง!... และฉันไม่เคยจ่ายเงินแม้แต่สลึงเดียวเพื่อให้คนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้มาเดาสุ่มในเรื่องราวของฉันแบบมั่วซั่วส่งเดช... ชริ!
เมื่อครั้งออกฝึกงานตอนก่อนจบ รุ่นพี่หลายคนจากหลายสาขาอาชี
พเพียรหยิบยื่นไมตรีให้ สำหรับฉันแล้วคิดแค่ว่า ทุกคนคือรุ่นพี่ที่ฉันนับถือเท่
ากันหมด ไม่มีใครพิเศษไปกว่าใคร... เพื่อนๆ แซวว่ารถไฟชนกันบ่อย ไม่หรอก... ก็เห็นๆ อยู่ว่าทุกคนทักทายพูดคุยกันอย่
างมีน้ำใจไมตรี ฉันไม่ได้เอ่ยปากเชิญชวนใครให้มาหาซักหน่อยนี่นา... พวกเขาก็แค่เห็นว่าฉันเป็นน้องที่
จริงใจใสซื่อคนหนึ่ง พูดคุยด้วยแล้วสบายใจดีก็เท่านั้น... ไม่มีอะไรในกอไผ่ซักหน่อย เง้อ...
ในเรื่องการวางตัว ฉันเคยหารือกะแม่และพี่สาวอีกสามคน ได้ข้อสรุปว่า ใครดีมาก็ดีตอบ ชอบไม่ชอบให้เก็บไว้ในใจ ปฏิเสธที่จะอยู่สองต่อสองในทุ
กที่ทุกเวลา และอย่าให้ปัญหามาจากเรา ฉันจึงตั้งปนิธานไว้แน่วแน่ว่า ทุกคนคือเพื่อนรุ่นพี่เท่ากันหมด ส่วน "คนพิเศษ" ของฉันต้องมีคนเดียวเท่
านั้นตลอดไป...
เอาเข้าจริงๆ เมื่อถึงคราวที่คิดจะสร้
างครอบครัว ฉันได้ยินชัดว่าดวงของฉันไม่ถู
กโฉลกกับดวงของว่าที่เจ้าบ่าว ประมาณว่าฉันดวงแข็งและค่อนไปทางร้าย (ยังดีที่ไม่เลว หุหุ) แต่งไปอาจอยู่ไม่ทน... ยอมรับว่าเสียความรู้สึกไม่ใช่น้อยๆ เลย ยังไงดีล่ะ? ไปแต่งกะคนอื่นที่ดวงเนื้อคู่แต่ไม่รู้จักไม่รักไม่ชอบซะเลยดีมั้ย? ที่สุดแล้วพี่ชายกลับไม่แคร์ใดๆ แถมเดินหน้าเต็มสตรีม...
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยถามสักคำว่าฉันมันร้
ายกาจขนาดไหน ยังไงบ้าง... ฮ่าๆ
อ้าวๆ จ้องอยู่ได้ตั้งนาน... จะดูให้ชัดๆ ว่านั่นไม่ใช่ฉันงั้นสิ... ฮิ้วส์!
ดีใจด้วยครับที่เรื่องราวมีแต่แฮปปี้ ตั้งแต่เริ่มแรกกระทั้งปัจจุบันนี้
ตอบลบผมอีกคนที่ไม่ชอบให้หมอดู แต่ตอนนี้ไฟร์บังคับตัองไปหาหมอบ่อยๆ 555
ตอบลบไม่ชอบ"หมอดู" เพราะหมอเดา ไม่มีโอกาสได้ดู"หมอ"เลยบอกไม่ได้ว่าชอบหรือไม่....?
ตอบลบหลายคนใฝ่ฝันอยากจะดู"หมอ"..ฮึ