เช้าตรู่ของวันอังคาร... ในเมืองใหญ่มีผู้คนพลุกพล่านเผ่นทะยานออกจากบ้านกันตั้งแต่ยังไม่หายง่วงงุน เด็กเล็กๆ จำต้องทานอาหารในรถแล้วสับปะหงกต่อจนกว่าจะถึงที่หมาย... ฉันเองก็รีบกะเขาเหมือนกันเพื่อพาคนไข้ไปตรวจตามหมอนัดทุกๆ สามเดือน ขืนไปสายมีหวังบ่ายก็ไม่ได้ตรวจล่ะ... ไปเช้าๆ เข้าไว้ ถึงก่อนซักประวัติวัดความดันเรียบร้อยแล้วจะไปเอ้อระเหยที่ไหนก็คงไม่มีใครค่อนขอดเอาได้ว่ามาแทรกคิวคนอื่นๆ...ด้วยความที่ไม่สามารถหาที่หย่อนก้นนั่งรอได้ ฉันจึงเดินไปซะไกลๆ เพียงเพื่อจะได้นั่งหลบมุมฟังเพลงเบาๆ จาก mp4 ฆ่าเวลา...
บางสิ่งที่หายไป อิน-บูโดกัน
อืมห์ เพลงนี้ ซึ้งได้ใจจริงๆ ซึ้งเสียจนอยากร้องไห้... ฉันอินกะมันมากพอที่จะเลือกเมนูเล่นเพลงเดียวซ้ำๆ ซะเลย... ฟังแล้วฟังอีกแทบจำขึ้นใจแต่ยังไงก็คงร้องไม่ออก อิอิ... ขณะกำลังนั่งฟังเพลงเพลินๆ สายลมพัดผ่านพริ้วแผ่ว ทำให้รู้สึกอยากจะเข้าฌานขึ้นมาจริงๆ ถ้าไม่มีใครสะกิดแขนเบาๆ เข้าเสียก่อน...
"ทำไมมานั่งตาปรืออยู่คนเดียวตรงนี้ล่ะ?" คนน้าคนสวยนั่นเอง เคยเจอกันหลายครั้งสมัยที่ยังทำงานอยู่ห้องตรวจสูติ-นรีเวช พอจำกันได้... เธอมาตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำปีละครั้ง แต่ละครั้งก็จะเห็นแฟนของเธอมาด้วยเสมอ... นับเป็นคู่ชีวิตที่สมควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนรุ่นหลัง...
"พาญาติมาตรวจน่ะค่ะ ยืนรอจนขาแข็งเลยหลบมานั่งฟังเพลงเย็นใจ" ฉันไหว้ก่อนตอบเขินๆ
"ใครเหรอ เขาเป็นอะไรมากมั้ย" เธอยิงคำถามขณะหันไปโบกมือกวักเรียกอีกคน...
"ญาติของแฟนมาจากปักษ์ใต้ค่ะ เป็นความดันสูง มารับยาต่อเนื่องเฉยๆ ค่ะ" ตอบเสร็จก็ไหว้คุณน้าผู้ชายที่เดินช้าๆ มาถึงพอดี
"แหม เขาช่างโชคดีกันจริงๆ ที่มีพยาบาลส่วนตัวคอยดูแลเอาใจใส่สมาชิกในครอบครัว เห็นอย่างนี้แล้วให้น้อยใจวาสนาตัวเองนัก" ว่าพลางน้ำตาคลอรื้น จนฉันต้องรีบยื่นมือไปลูบแขนเธอเบาๆ...
"น้ากะแฟนก็พากันมาตรวจเบาหวานตามหมอนัดเหมือนกัน ไม่รู้ใครจะหนีกลับบ้านเก่าไปก่อน ตอนนี้ยังไม่ล้มหมอนนอนเสื่อก็กัดฟันไปต่อมันเรื่อยไป... แต่เห็นแก่ๆ อย่างนี้ ขับรถมาเองทุกครั้งเลยนะ ลูกแปดคนไม่มีได้พึ่งพาหรอก ฮึ" พูดจบก็โผเข้ากอดฉันพร้อมกับปล่อยโฮ... ยังดีว่าหลบไปนั่งอยู่ห่างๆ ไม่งั้นคงได้เป็นจุดสนใจสายตาคนกลุ่มใหญ่...
ฉันได้แต่อึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน... รู้สึกเห็นใจและยินดีให้ความช่วยเหลือเท่าที่พอทำได้... ให้เวลาสักพักจนกลั้นสะอื้นลงได้บ้างแล้ว จึงสอบถามเรื่องการเข้าถึงบริการ...
"ได้คิวซักประวัติวัดความดันเรียบร้อยหรือยังคะ ให้หนูช่วยอะไรบ้างไหม?"
"เรียบร้อยแล้วทุกอย่าง ตอนนี้รอเรียกพบหมออยู่ เพราะเรามาตั้งแต่ก่อนหกโมงแน่ะ... ไปๆ ทานข้าวด้วยกันลูก" แน่ะ ท่านยังมีน้ำใจห่วงว่าฉันจะหิว...
"ขอบคุณมากค่ะ หนูยังต้องรอญาติๆ ก่อน ยังไงเชิญคุณน้าทั้งสองตามสบายเลยนะคะ... "
ผ่านไปแล้วหลายวันแต่ฉันยังไม่ลืม... ความรู้สึกที่เกาะกินใจมันค้างคาคำถามที่ไม่คิดจะหาคำตอบ ด้วยรู้ดีว่าตัวฉันเองก็ปล่อยปละละเลยต่อบุพการีไปนานนับแต่มีครอบครัว แม้ว่าบรรดาพีๆ ที่อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่จะทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ฉันก็รู้สึกผิดมาตลอด... เมื่อใดก็ตามที่ได้เดินทางมาประชุมสัมมนาหรือฝึกอบรมใน กทม. ก็จะถือโอกาสลาพักร้อนต่อเพื่อเดินทางกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ แต่ความที่หนทางไม่ใช่ใกล้ๆ ทำให้ฉันเพลียและหลับยาวจนแม่เป็นห่วงถึงกับออกปากทุกครั้งว่าเหนื่อยมากก็ไม่ต้องมา แค่โทรหาก็พอ...
วันหนึ่ง พี่สาวส่งข่าวกระหืดกระหอบว่าแม่เข้าไอซียูโรง'บาลเอกชน... เท่านั้นแหละ ฉันเขียนไปขอย้ายในทันที... วันลามีเท่าไหร่เขียนใบลาส่งไว้ล่วงหน้าแล้วบึ่งไปไม่เหลียวหลัง... กว่าจะเดินเรื่องเสร็จแม่ก็จากไปไม่มีวันกลับ ยังมิทันได้ปรนนิบัติสักเท่าไหร่เลย... จากนั้น ฉันก็อยู่ดูแลพ่อ ได้ทำทุกอย่างๆ ดีที่สุด โดยมีพี่สาวอีกคนหนึ่งอยู่เคียงข้างช่วยเหลือกันตลอด จนพ่อบอกกับใครๆ ว่าเหมือนมีนางฟ้าคอยดูแล... เราสองพี่น้อง ปลื้มมาก...
วันนี้... ฉันได้รู้แล้วว่า ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง คนเราจะจัดการกับทุกๆ อย่างได้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบนั้นหาเป็นไปได้ไม่... เมื่อเราเลือกที่จะทำบางอย่างนั่นคือเราต้องวางมือกับบางอย่างโดยปริยาย...
ความจริงอันเจ็บปวดก็คือเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปชดเชยในทุกๆ สิ่งที่เคยปล่อยผ่านไปแล้วแม้เพียงเศษเซี้ยวของเรื่องราวใดๆ...
และเจ็บยิ่งกว่า เมื่อสิ่งที่ได้เลือกไปแล้วนั้นจะมีใครเห็นคุณค่าของเราสักนิดก็หาไม่... กรรม!
วันหนึ่ง พี่สาวส่งข่าวกระหืดกระหอบว่าแม่เข้าไอซียูโรง'บาลเอกชน... เท่านั้นแหละ ฉันเขียนไปขอย้ายในทันที... วันลามีเท่าไหร่เขียนใบลาส่งไว้ล่วงหน้าแล้วบึ่งไปไม่เหลียวหลัง... กว่าจะเดินเรื่องเสร็จแม่ก็จากไปไม่มีวันกลับ ยังมิทันได้ปรนนิบัติสักเท่าไหร่เลย... จากนั้น ฉันก็อยู่ดูแลพ่อ ได้ทำทุกอย่างๆ ดีที่สุด โดยมีพี่สาวอีกคนหนึ่งอยู่เคียงข้างช่วยเหลือกันตลอด จนพ่อบอกกับใครๆ ว่าเหมือนมีนางฟ้าคอยดูแล... เราสองพี่น้อง ปลื้มมาก...
วันนี้... ฉันได้รู้แล้วว่า ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง คนเราจะจัดการกับทุกๆ อย่างได้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบนั้นหาเป็นไปได้ไม่... เมื่อเราเลือกที่จะทำบางอย่างนั่นคือเราต้องวางมือกับบางอย่างโดยปริยาย...
ความจริงอันเจ็บปวดก็คือเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปชดเชยในทุกๆ สิ่งที่เคยปล่อยผ่านไปแล้วแม้เพียงเศษเซี้ยวของเรื่องราวใดๆ...
และเจ็บยิ่งกว่า เมื่อสิ่งที่ได้เลือกไปแล้วนั้นจะมีใครเห็นคุณค่าของเราสักนิดก็หาไม่... กรรม!
เนื้อเพลง+คอร์ด "บางสิ่งที่หายไป" : อิน บูโดกัน
Intro: A/E/F#m/D/A/E/F#m
A E F#m A E F#m
ทุกวันก็เคยเห็น มีดอกไม้ เหมือนเป็นสื่อความหมาย ว่าคิดถึงกัน
A E F#m D E
ทุกวันกับคำหวาน ที่บอกฉัน เธอทำให้ฉันอุ่นหัวใจ
C#m F#m Bm E
* จนวันที่เธอนั้นห่างเหิน ฉันต้องเผชิญ กับความอ้างว้างเดียวดาย
C#m F#m D E
คืนวันที่เคยดูสดใส ต้องสลายไปกับความเป็นจริง
A E F#m D A E F#m/D
** สิ่งที่หายไป มันไม่ใช่แค่ดอกไม้ แต่มันหมายความถึงบางสิ่ง ที่สำคัญ
A E F#m/D Bm C#m E
สิ่งที่หายไปมันไม่ใช่แค่คำหวาน แต่กับตัวฉัน ที่ว่างเปล่า ที่เฝ้ารอ
(A)
ก็ใจหายไปทั้งใจ
Solo :- A / E / F#m / D / A / E / F#m
A E F#m A E F#m
ฉันเองก็ไม่รู้ เธออยู่ไหน หรือเธอจะเจอใคร ที่ซึ้งใจกว่า
A E F#m D E
หรือเพียงจะแกล้งฉัน ให้ห่วงหา หรือว่าเธอนั้น ไม่รู้เลย
[ * , ** ] C / Em / Am / C / Em / Am / C#m / E / F#m / D / E
ฮา... ฮา... ฮา... ฮา...
[ * , ** ]